10 มือถือใหม่ น่าซื้อน่าใช้ในงาน Thailand Mobile Expo 2017 วันที่ 28 กันยายน ถึง 1 ตุลาคม 2560 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ รุ่นไหนเด็ด รุ่นไหนโดน รวบรวมมาให้แล้ว
เปิดฉากอีกครั้งกับงาน Thailand Mobile Expo 2017 งานมหกรรมมือถือครั้งยิ่งใหญ่ของไทย ซึ่งถือว่าเป็นงานแสดงโทรศัพท์มือถือที่ใหญ่ที่สุดส่งท้ายปี 2017 เลยทีเดียว ภายในงานจะมีทั้งมือถือและแก็ดเจ็ตสุดล้ำมากมายให้ได้ชมกันอย่างมากมาย รวมถึงโปรโมชั่นเด็ด ลด แลก แจก แถม ส่งท้ายปีที่ขนกลับบ้านกันไม่หมดแน่นอน
สำหรับใครที่กำลังจะเปลี่ยนมือถือใหม่และตัดสินใจไม่ถูกว่าจะเลือกซื้อรุ่นไหนดี วันนี้กระปุกดอทคอมลงพื้นที่สำรวจงาน Thailand Mobile Expo 2017 แนะนำ 10 มือถือใหม่ น่าซื้อน่าใช้มาแนะนำ มีให้เลือกหลายราคา และอย่าลืมว่ามือถือที่ซื้อภายในงามมีโปรโมชั่นพร้อมของแถมอีกเพียบ ส่วนจะมีรุ่นไหนบ้าง มาติดตามกันเลย
หลังจากประสบปัญหาเรื่องแบตเตอรี่กับ Galaxy Note 7 จนทำให้ไม่สามารถออกวางจำหน่ายได้ ซัมซุงกลับมาแก้มืออีกครั้งด้วย Galaxy Note 8 ที่ปรับโฉมใหม่ มาพร้อมกล้องหลังคู่ตามสมัยนิยม และกันสั่น Dual OIS เป็นรุ่นแรกของโลก รวมถึงปากกา S Pen ที่อัจฉริยะกว่าเดิม พร้อมลูกเล่นที่หลากหลายเอาใจคนชอบ Galaxy Note ส่วนด้านสเปคไม่ผิดหวังแน่นอน มีสเปคแรงโดนใจ เช่น ซีพียู Exynos 8895, แรม 6GB, หน่วยความจำสูงสุด 256GB, กันน้ำกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP68, ระบบความปลอดภัยสแกนม่านตา และแบตเตอรี่ 3,300mAh รองรับ Wireless Charging
ราคา 33,900 บาท
อยากได้มือถือกล้องคู่แบบ Galaxy Note 8 แต่มีงบจำกัด ลองมองรุ่นนี้ Galaxy J7+ มือถือซีรีส์ J รุ่นใหม่ มาพร้อมกล้องหลังคู่ 13+5 ล้านพิกเซล และเป็นมือถือกล้องคู่รุ่นที่สองของซัมซุงต่อจาก Galaxy Note 8 นอกจากนี้ยังมีโหมด Live Focus ในกล้องหลัง และ Selfie Focus ในกล้องหน้าที่สามารถปรับระยะความเบลอของภาพได้ทีหลัง นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์อื่น ๆ ที่น่าสนใจอีก เช่น Multi Window แบ่งหน้าจอใช้งานสองแอปฯ ได้พร้อมกัน, Pop up window ที่สามารถเปิดหน้าจอพร้อมกันได้สูงสุดถึง 5 จอ, Bixby Home สร้างหน้าจอเฉพาะของคุณ ตามแอปฯ และข้อมูลต่าง ๆ ที่ใช้เป็นประจำ, Dual messenger แชทได้พร้อมกัน 2 บัญชีในเครื่องเดียว, Alway on Display, เก็บข้อมูลส่วนตัวให้ปลอดภัยด้วย Secure Folder และปลดล็อกหน้าจอด้วยใบหน้าหรือสแกนลายนิ้วมือ
ราคา 12,990 บาท
3. Nokia 8
Nokia คืนสู่ตลาดมือถืออีกครั้ง ด้วยการส่ง Nokia 8 มือถือระดับเรือธง มาพร้อมกล้องหลังคู่ตามสมัยนิยม ใช้เลนส์จาก ZEISS ที่เคยเป็นพันธ์มิตรเก่าของ Nokia พร้อมลูกเล่นกล้องแบบใหม่ ที่มีชื่อเรียกว่า #Bothie ที่เป็นการถ่ายภาพโดยใช้กล้องหน้าและกล้องหลังพร้อมกัน นอกจากนี้ยังมาพร้อมระบบเสียง Nokia OZO ที่นำมาจากกล้อง OZO ทำให้การเล่นเสียงทำได้แบบรอบทิศทาง 360 องศา และสามารถใช้งานกับการถ่ายวิดีโอได้ รวมถึงมีไมโครโฟน 3 ตัวที่ช่วยในการบันทึกเสียง ส่วนด้านสเปคเรียกได้ว่าจัดมาแบบเต็ม ๆ ตามสไตล์มือถือเรือธง ใช้ซีพียู Snapdragon 835 Octa-Core, แรม 4GB, หน่วยความจำ 64GB, รองรับ microSD สูงสุด 256GB, รัน Android 7.1.1 (Nougat) แบบ Pure Android รองรับการอัปเดต Android O และแบตเตอรี่ 3,090mAh พร้อม Quick Charge 3.0
ราคา 19,500 บาท
สำหรับแฟน Sony ที่กำลังรอมือถือรุ่นใหม่ ล่าสุดส่ง Sony Xperia XZ1 มือถือเรือธงรุ่นใหม่ลงสู่ตลาดมือถือไทยเรียบร้อย มาพร้อมสเปคสุดแรง และรัน Android 8.0 Oreo ตั้งแต่อยู่ในกล่อง และยังมีฟีเจอร์ใหม่ที่เพิ่มเข้ามาคือ 3D Creation ที่สามารถใช้กล้องสแกนใบหน้าหรือวัตถุแบบ 3 มิติ เพื่อนำมาสร้างเป็นตัว Avatar ได้ และอาจมีลูกเล่นที่ทำให้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ทำอย่างอื่นได้อีกอนาคต ด้านสเปค 5.2 นิ้ว ความละเอียด Full HD, ซีพียู Snapdragon 835, แรม 4GB, หน่วยความจำ 64GB, กล้องหลัง 19 ล้านพิกเซล, กล้องหน้า 13 ล้านพิกเซล, กันน้ำกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP65/68 และแบตเตอรี่ 2,700mAh รองรับชาร์จเร็ว Quick Charge 3.0 และยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ด้วย Qnovo Adaptive Charging
ราคา 22,990 บาท
มือถือระดับกลางสุดคุ้มจาก Motolora สานต่อความสำเร็จมาจาก Moto G4 สำหรับรุ่นนี้มีการปรับปรุงวัสดุตัวเครื่องใหม่ เปลี่ยนมาใช้บอดี้โลหะตามสมัยนิยมพร้อมกับเคลือบสารกันน้ำ (nano-coating), อัปเกรดกล้องเป็นความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 มีขนาดพิกเซลใหญ่ขึ้น โฟกัสได้เร็วขึ้น และถ่ายในที่แสงน้อยได้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังมีระบบ TurboPower charging 15 วัตต์ กับแบตเตอรี่ความจุ 3,000mAh ที่เคลมว่าชาร์จแค่ 15 นาที สามารถใช้งานได้ 6 ชั่วโมง
Moto G5s Plus ราคา 9,990 บาท
6. OPPO R9s Pro
มือถือกล้องคู่รุ่นใหม่จาก OPPO มาพร้อมกล้องหน้าคู่ เอาใจคนชอบถ่ายเซลฟี่แบบ Groupfie ถ่ายภาพเซลฟี่เป็นกลุ่มที่ไม่ต้องกลัวตกเฟรม มีกล้องหน้าคู่ความละเอียด 16+8 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้าง 120 องศา รูรับแสง f/2.0 เซ็นเซอร์ Sony IMX 398 ส่วนกล้องหลัง 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.7 ด้านสเปคอื่น ๆ มีหน้าจอขนาด 6 นิ้ว ความละเอียด Full HD, กระจกโค้ง 2.5D, กระจก Gorilla Glass 5, ซีพียู Snapdragon 653 Octa-Core, แรม 4GB, หน่วยความจำ 64GB, รองรับ microSD สูงสุด 256GB, รองรับ 2 ซิม แบบ Hybrid Dual SIM (nano + nano/microSD), รัน Android 6.0 (Marshmallow) ครอบทับด้วย ColorOS 3.0 และ แบตเตอรี่ 4,000mAh พร้อม VOOC Flash Charge ชาร์จเพียง 5 นาที คุยได้นานถึง 2 ชั่วโมง
ราคา 13,990 บาท
7. vivo V7+
มือถือซีรีส์ V รุ่นใหม่จาก vivo มาพร้อมจุดเด่นหน้าจอแบบใหม่ FullView Display ขนาด 5.99 นิ้ว อัตราส่วน 18:9 มีพื้นที่หน้าจอ 84.4% ขอบจอบางเฉียบเพียง 2.15 มิลลิเมตร นอกจากหน้าจอแบบใหม่แล้ว ทาง vivo ยังได้อัปเกรดกล้องหน้า โดยมีความละเอียดอยู่ที่ 24 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 มี LED flash ขาดไม่ได้กับโหมด Face Beauty 7.0 และโหมด Portrait ส่วนกล้องหลัง 16 ล้านพิกเซล ระบบโฟกัส PDAF และ LED flash สามารถ่ายภาพความละเอียดสูงสุด 64 ล้านพิกเซล (Ultra HD) ด้านสเปคใช้ซีพียู Snapdragon 450 14nm Octa-Core, รัน Android 7.1 (Nougat) ครอบทับด้วย FuntouchOS 3.2 พร้อมฟีเจอร์แบ่งหน้าจอ Smart Split 3.0 และ App Clone, รองรับ 2 ซิม, microSD, มีสแกนลายนิ้วมือด้านหลังเครื่อง
ราคา 11,990 บาท
มือถือซีรีส์ใหม่จาก Wiko มาพร้อมจุดเด่นหน้าจอแบบใหม่ Wide Screen Display ขอบจอบางเฉียบ อัตราส่วน 18:9 ขนาด 5.7 นิ้ว กล้องหน้าคู่ 20+8 ล้านพิกเซล พร้อมฟีเจอร์การถ่ายภาพแบบ Group Selfies Mode เซลฟีมุมกว้าง 120 องศาด้วยกล้อง 8 ล้านพิกเซล ที่เป็นเลนส์ Ultra Wide มุมกว้าง 120 องศา และเมื่อใช้กล้องทั้งสองตัวพร้อมกันสามารถถ่ายภาพแบบ Live Portrait หน้าชัดหลังเบลอได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีหมด Super Pixel ให้รายละเอียดภาพสูงถึง 64 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ด้านสเปคใช้ซีพียู Snapdragon 430, แรม 4GB, หน่วยความจำ 64GB, รองรับ microSD สูงสุด 128GB
ราคา 7,490 บาท
มือถือซีรีส์ Zenfone 4 รุ่นใหม่ ชูจุดเด่นเรื่องแบตเตอรี่อึด มาพร้อมกล้องหลังคู่ 16+5 ล้านพิกเซล กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล สำหรับ Zenfone Max Pro (ZC554KL) มือถือที่เน้นในเรื่องแบตเตอรี่อึด ใช้งานได้อย่างยาวนาน มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 5,000mAh ใช้เทคโนโลยีจัดการแบตเตอรี่ ASUS Power Master มีโหมดพาวเวอร์แบงค์ สามารถปล่อยไฟชาร์จให้อุปกรณ์อื่น ๆ ได้ และเคลมว่าสามารถสแตนด์บายได้นาน 46 วัน รองรับการชาร์จเร็วด้วยอะแดปเตอร์ 10W เคลมว่าใช้เวลาแค่ 4 ชั่วโมง สามารถชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 100% และชาร์จแค่ 15 นาที สามารถใช้คุยโทรศัพท์ได้นาน 3 ชั่วโมง ด้านสเปคใช้ซีพียู Snapdragon 430 Octa-Core 1.4GHz, แรม 3GB, รัน Android 7.0 (Nougat), หน่วยความจำ 32GB และรองรับ microSD สูงสุด 256GB
ราคา 7,990 บาท
10. Huawei nova 2i
มือถือกล้อง 4 ตัว รุ่นแรกของ Huawei ที่ทำให้การถ่ายภาพสนุกยิ่งขึ้นด้วยกล้องคู่ด้านหน้าและด้านหลัง มาพร้อมหน้าจอ FullView Display ขอบชิดขอบที่ให้มุมมองกว้างขึ้นกว่าเดิม มีขนาดหน้าจอ 5.9 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ สัดส่วนหน้าจอกับตัวเครื่องสูงถึง 83% ในอัตราส่วน 18:9 ส่วนตัวเครื่องมีดีไซน์หรูหราสวยงามแบบ Unibody พร้อมสเปคสุดคุ้ม ราคาโดนใจ ด้านสเปค Huawei nova 2i ใช้ซีพียู Kirin 659 Octa-Core, แรม 4GB, หน่วยความจำ 64GB, รองรับ microSD สูงสุด 265GB, รัน Android 7.0 ครอบทับด้วย EMUI 5.1 พร้อมใช้เทคโนโลยี Machine Leaning ที่เรียนรู้พฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้แต่ละคนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้ดีขึ้น และมีแบตเตอรี่ 3,340mAh ที่เคลมว่าสามารถเล่นเกมต่อเนื่องได้นาน 7 ชั่วโมง
ราคา 10,900 บาท
แก้ไขข้อมูลล่าสุด วันที่ 1 ตุลาคม 2560 เวลา 17.30 น.
