แอปเปิลเปิดตัว iOS 9 เน้นฟีเจอร์ใช้งานได้จริง ปรับปรุง Siri มีความแม่นยำและทำงานเร็วขึ้น 40% รวมถึงปรับปรุงส่วนต่าง ๆ และเพิ่มความสามารถใหม่ ๆ อีกเพียบ
เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2558 ที่งาน WWDC 2015 แอปเปิลเปิดตัว iOS 9 ระบบปฏิบัติการบนสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุด โดยในเวอร์ชั่นนี้เน้นปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานให้ดีขึ้นกว่าเดิม รวมถึงเปลี่ยนแปลงและเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยให้ผู้ใช้สะดวกสบายมากขึ้น โดยฟีเจอร์หลาย ๆ อย่างเรียนรู้จากพฤติกรรมผู้ใช้งาน เพื่อตอบสนองสิ่งที่ผู้ใช้งานต้องการมากที่สุด โดยฟีเจอร์ใหม่ที่มาพร้อม iOS 9 เช่น Siri มีความแม่นยำและทำงานได้รวดเร็วกว่าเดิม, รองรับการใช้งาน 2 หน้าจอสำหรับ iPad, เพิ่มแอพฯ News, ปรับปรุงแอพฯ Note, Spotlight ให้สามารถค้นหาสิ่งต่าง ๆ ได้มากขึ้น เป็นต้น
Siri กับระบบค้นหาที่ชาญฉลาดกว่าเดิม
สำหรับ Siri ดูเหมือนจะถูกยกเครื่องใหม่อีกรอบ โดยแอปเปิลบอกว่า Siri บน iOS 9 ได้รับการปรับปรุงให้มีความแม่นยำมากขึ้นถึง 40% และสามารถทำงานได้เร็วขึ้นกว่าเดิมถึง 40% ปรับเปลี่ยนดีไซน์ใหม่เล็กน้อย ไฮไลท์สำคัญน่าจะอยู่ที่ความฉลาดที่เพิ่มเข้ามา ผู้ใช้สามารถใช้ Siri ค้นหารูปภาพหรือวิดีโอได้, Siri ศึกษาพฤติกรรมการใช้งาน โดยสามารถคาดเดาและแนะนำสิ่งที่ผู้ใช้จะทำต่อไปโดยอ้างอิงข้อมูลจากสถานที่ เวลา หรือแอพฯ ที่กำลังใช้งานอยู่ เช่น เมื่อเราเสียบหูฟัง Siri ก็จะเปิดเพลงให้อัตโนมัติ รวมทั้งการค้นหาข้อมูลต่าง ๆ เช่น สถานที่, รายชื่อผู้ติดต่อ, แอพพลิเคชั่น ซึ่ง Siri จะแนะนำและแสดงผลการค้นหาเพิ่มเติมได้เหมาะสมกับผู้ใช้ได้มากกว่าเดิม จากการวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้
iPad ใช้งานหลายแอพฯ พร้อมกันบนหน้าจอเดียว (Multitasking)
อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่หลายคนรอคอยและอยากให้แอปเปิลนำมาใช้มาก ๆ ก็คือการใช้งานหลายแอพฯ พร้อมกัน และใน iOS 9 ฝันก็กลายเป็นจริง เมื่อแอปเปิลเพิ่มระบบ Multitasking แบบใหม่ให้กับ iPad เพียงแค่กดปุ่มโฮมสองครั้งเพื่อเปิดหน้า Task Switcher จากนั้นก็จะพบอินเทอร์เฟซแบบใหม่ที่เป็นหน้าต่างซ้อนทับกัน จะแบ่งการใช้งานออกแบบ 3 โหมด ได้แก่ (ดูตามภาพ)
โหมด Slide Over สามารถเปิดแอพฯ ใช้งานอีกหนึ่งแอพฯ โดยไม่ต้องปิดแอพฯ ที่ใช้งานอยู่ เช่น กำลังท่องเว็บ แต่อยากเล่น Twitter ไปด้วยก็สามารถทำได้
โหมด Split View แบ่งหน้าจอออกเป็นสองส่วน ทำให้สามารถใช้งานสองแอพฯ ได้พร้อม ๆ กัน
โหมด Picture in Picture ย่อวิดีโอให้มีขนาดเล็กเพื่อดูในระหว่างใช้งานร่วมกันกับแอพฯ อื่นได้ สามารถลากไปมาได้อย่างอิสระ รวมถึงใช้งานบนหน้าโฮม
สำหรับรุ่นที่รองรับการใช้งาน Multitasking ในโหมด Slide Over และ Picture in Picture รองรับตั้งแต่ iPad Air และ iPad mini 2 ขึ้นไป ส่วนโหมด Split View จะรองรับเฉพาะ iPad Air 2 เท่านั้น
Apple Maps เพิ่ม Transits บอกเส้นทางระบบขนส่งสาธารณะ
.jpg)
แอปเปิลปรับปรุงระบบแผนที่ Apple Maps ใหม่บน iOS 9 โดยเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ Transits ที่สามารถบอกเส้นทางของระบบขนส่งสาธารณะต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นรถเมล์ รถไฟ หรือรถไฟฟ้าใต้ดิน และบอกระยะเวลาที่รถจะมาถึงได้อีกด้วย รวมถึงแสดงข้อมูลสถานที่น่าสนใจใกล้เคียง โดยฟีเจอร์ Transits จะเปิดให้ใช้งานได้ใน 10 เมืองในอเมริกา และอีกกว่า 300 เมืองในประเทศจีน (ยังไม่รองรับในประเทศไทย)
เพิ่ม News แอพฯ อ่านข่าวโดยเฉพาะ
แอปเปิลได้เพิ่มแอพฯ ใหม่ชื่อ News ซึ่งน่าจะมาแทนที่ Newsstand สำหรับจุดเด่นของแอพฯ ตัวนี้ ผู้ใช้สามารถเลือกข่าวสารจากสำนักข่าวดัง ๆ หลายแห่ง เช่น The New York Times, TIME, The Guardian, CNN, The Economist รวมไปถึงนิตยสารแฟชั่นดัง ๆ อีกหลายเล่ม ผู้ใช้สามารถเลือกติดตามข่าวสารที่อยากอ่านได้ โดยเลือกจากหัวข้อ สำหรับตัวแอพฯ ออกแบบที่เน้นความเรียบง่าย สวยงาม ไม่มีโฆษณามารบกวน สามารถใช้งานทั้งบน iPhone และ iPad เบื้องต้นเปิดให้ใช้งานในสหรัฐฯ สหราชอาณาจักร และออสเตรเลีย
แอพฯ Notes ปรับปรุงใหม่ วาดรูปด้วยนิ้วมือ
แอปเปิลปรับปรุงแอพฯ Notes เปลี่ยนจากแอพฯ จดโน้ตธรรมดา ๆ ให้กลายเป็นแอพฯ จดโน้ตที่ทำอะไรได้เยอะกว่าเดิม โดยแอพฯ Notes บน iOS 9 สามารถวาดรูปประกอบด้วยนิ้วมือได้, เพิ่มข้อมูลจากแอพฯ อื่น ๆ, เพิ่มรูปภาพ และทำ Checklists เป็นต้น
Passbook เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น Wallet เก็บสารพัดบัตร
หลายคนอาจจะคุ้นกับแอพฯ Passbook ที่เปรียบเหมือนกระเป๋าสตางค์เอาไว้คอยเก็บบัตรต่าง ๆ แต่บน iOS 9 แอปเปิลได้เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น Wallet โดยเก็บสารพัดบัตร ทั้งบัตรเครดิต/เดบิต, บัตรคูปองส่วนลดต่าง ๆ จะถูกรวมไว้ในแอพฯ เดียวเพื่อให้เข้ากับการทำงานมากขึ้น
Spotlight ปรับปรุงใหม่ค้นหาข้อมูลได้หลากหลายกว่าเดิม
สำหรับ Spotlight บน iOS ถูกปรับปรุงใหม่เป็นแบบ Proactive (ปัดซ้ายเพื่อค้นหา) สามารถค้นหาข้อมูลได้มากขึ้น ค้นหาข้อมูลได้ละเอียด รวมถึงความสามารถอื่น ๆ เช่น แปลงค่าเงินได้, สูตรอาหาร, เช็กสภาพอากาศ, นอกจากนี้แอปเปิลยังเปิด API ให้นักพัฒนาสามารถทำแอพฯ เพื่อมาเชื่อมต่อกับระบบค้นหาแบบใหม่นี้ได้ด้วย
ปรับปรุง QuickType เพิ่ม Shortcut bar
แอปเปิลปรับปรุง QuickType ระบบเดาคำโดยเพิ่ม Shortcut bar ฟังก์ชั่นทางลัดที่ช่วยให้การ Cut/Copy/Paste ข้อความต่าง ๆ ทำได้ง่ายและสะดวกรวดเร็วขึ้น รวมถึงการแทรกรูปภาพ หรือแนบไฟล์ต่าง ๆ
CarPlay เชื่อมต่อ iPhone แบบไร้สายได้
สามารถใช้งาน CarPlay ด้วยการเชื่อมต่อ iPhone กับรถยนต์แบบไร้สายได้ สั่งการได้ผ่าน iPhone เช่น เล่นเพลงหรือส่งข้อความ รวมทั้งการใช้งานแอพฯ จากผู้ผลิตรถยนต์เพื่อควบคุมอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในรถ
เปลี่ยนจาก Android มาใช้ iOS ได้ง่าย ๆ
ด้วยแอพฯ Move to iOS ทำให้ผู้ใช้ Android สามารถย้ายข้อมูลต่าง ๆ จาก Android มาสู่ iOS ได้อย่างสะดวกและง่ายดาย โดยข้อมูลต่าง ๆ เช่น รายชื่อผู้ติดต่อ, ข้อความ, รูปภาพ, วิดีโอ, Bookmarks, บัญชีต่าง ๆ, ปฏิทิน, Wallpaper, เพลงที่ไม่ติดลิขสิทธิ์ ฯลฯ และสำหรับแอพฯ ฟรีต่าง ๆ ที่เคยใช้บน Android เช่น Facebook หรือ Twitter ระบบก็แนะนำให้ดาวน์โหลดจาก App Store ได้เช่นกัน ส่วนแอพฯ แบบเสียเงินก็อยู่ในส่วนของ Wish List
ฟีเจอร์อื่น ๆ ของ iOS 9
ใช้พื้นที่ในการอัพเดทน้อยลงจากเดิม 4.58GB ปรับเป็น 1.3GB
โหมดประหยัดแบตเตอรี่อัตโนมัติ เมื่อแบตเตอรี่ใกล้หมดจะสามารถใช้งานต่อได้อีก 1 ชั่วโมง ก่อนชาร์จ
iOS 9 ทำงานได้เร็วและตอบสนองได้ดีกว่าเดิม
การรักษาความปลอดภัยที่ดีขึ้น แอปเปิลให้ความสำคัญกับข้อมูลส่วนตัว, เพิ่มความปลอดภัยด้วยรหัส Passcode 6 หลัก
ทั้งนี้ iOS 9 เวอร์ชั่น Beta สำหรับนักพัฒนาสามารถดาวน์โหลดได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ส่วนเวอร์ชั่น Plublic Beta สำหรับคนทั่วไปจะปล่อยในเดือนกรกฎาคมนี้ สำหรับเวอร์ชั่นเต็มจะปล่อยให้อัพเดทพร้อมกันทั่วโลกวันที่ 16 กันยายนนี้
สำหรับอุปกรณ์ที่รองรับ iOS 9 ได้แก่ iPhone 4s, iPhone 5, iPhone 5c, iPhone 5s, iPod touch 5, iPhone 6, iPhone 6 Plus, iPad 2, iPad 3, iPad 4, iPad Air, iPad Air 2, iPad mini, iPad mini 2 และ iPad mini 3 ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Apple
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Apple
