iOS 15 เปิดตัวในงาน WWDC 2021 มาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ FaceTime ดีกว่าเดิม และอื่น ๆ อีกเพียบ iOS 15 รุ่นที่รองรับ มี iPhone รุ่นไหนบ้าง จะได้อัปเดตเมื่อไหร่ มาดูกัน
เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2564 แอปเปิลได้เปิดตัว iOS 15 ซึ่งเป็นอัปเดตใหญ่ที่จะยกระดับประสบการณ์การใช้งาน iPhone ไปอีกขั้น ทั้งการโทร. FaceTime ที่มีความเป็นธรรมชาติมากขึ้น และมาพร้อม SharePlay สำหรับการแชร์ประสบการณ์ร่วมกัน อีกทั้งยังช่วยให้ผู้ใช้โฟกัสกับสิ่งที่ทำอยู่ได้เต็มที่ ด้วยวิธีใหม่สำหรับจัดการกับการแจ้งเตือน และยังเพิ่มความอัจฉริยะให้กับรูปภาพและการค้นหาเพื่อให้เข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว พร้อมฟีเจอร์ใหม่ ๆ อีกเพียบ ส่วนจะมีอะไรเด็ด ๆ น่าสนใจบ้างนั้น ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลย
FaceTime
FaceTime ใน iOS 15 จะมีระบบเสียงตามตำแหน่งที่จะทำให้เสียงพูดขณะโทร. FaceTime ฟังดูราวกับว่ามาจากตำแหน่งที่บุคคลนั้นอยู่บนหน้าจอจริง ๆ พร้อมโหมดไมโครโฟนใหม่ที่จะช่วยแยกเสียงพูดออกจากเสียงรบกวนรอบข้าง รวมทั้งโหมดภาพถ่ายบุคคล เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเบลอฉากหลังและโฟกัสที่ตัวเองขณะ FaceTime ได้ ยิ่งไปกว่านั้นขณะใช้ FaceTime แบบกลุ่ม ยังมีมุมมองตารางแบบใหม่ที่ช่วยให้ผู้เข้าร่วมเห็นหน้าคนอื่น ๆ พร้อมกันได้มากขึ้นอีกด้วย
SharePlay
แชร์ประสบการณ์ร่วมกันด้วย SharePlay ขณะคุยผ่าน FaceTime ไม่ว่าจะเป็นการฟังเพลงใน Apple Music ไปด้วยกัน, การดูรายการทีวีหรือภาพยนตร์ไปพร้อมกัน หรือการแชร์หน้าจอเพื่อดูแอปฯ ต่าง ๆ ด้วยกัน โดย SharePlay สามารถใช้งานได้ทั้งบน iPhone, iPad และ Mac และมีส่วนควบคุมการเล่นแบบแชร์ที่ให้ใครก็ได้ในเซสชั่น SharePlay นั้นสามารถเล่น หยุด หรือข้ามไปข้างหน้าได้ นอกจากนี้ SharePlay ยังใช้ดูกับ Apple TV ด้วยกันได้อีกด้วย โดยที่ SharePlay จะควบคุมการเล่นของทุกคนให้ตรงกัน
Focus
ฟีเจอร์ลดสิ่งรบกวนสมาธิและช่วยให้ผู้ใช้โฟกัสกับสิ่งที่ทำอยู่ได้เต็มที่ ซึ่งจะทำหน้าที่กรองการแจ้งเตือนและแอปฯ โดยพิจารณาจากสิ่งที่ผู้ใช้ต้องการโฟกัส ด้วยการสร้างโฟกัสในแบบของตัวเอง หรือเลือกโฟกัสที่ระบบแนะนำ ซึ่งจะแนะนำว่าควรอนุญาตให้บุคคลใดหรือแอปฯ ใดแจ้งเตือนได้บ้าง โดยเรียนรู้จากบริบทของผู้ใช้ นอกจากนี้ผู้ใช้ยังสามารถสร้างเพจในหน้าจอโฮมที่ประกอบด้วยแอปฯ และวิดเจ็ตต่าง ๆ เพื่อให้แสดงเฉพาะแอปฯ ที่สอดคล้องกับช่วงเวลานั้น และลดสิ่งที่เบี่ยงเบนความสนใจ ทั้งนี้ สถานะของผู้ใช้ที่ผู้อื่นเห็นในแอปฯ ข้อความก็จะเปลี่ยนไปด้วยโดยอัตโนมัติ เพื่อแสดงว่าขณะนั้นผู้ใช้ไม่สามารถติดต่อได้
Notifications
การแจ้งเตือนแบบใหม่ โดยจะแสดงรูปของผู้ติดต่อในกรณีที่มาจากบุคคลและมีไอคอนที่ใหญ่ขึ้นในกรณีที่มาจากแอปฯ ซึ่งทั้งหมดนี้ช่วยให้เข้าใจได้ง่ายขึ้นว่าเป็นการแจ้งเตือนอะไร และยังมีคุณสมบัติใหม่สำหรับสรุปการแจ้งเตือนเพื่อช่วยลดสิ่งรบกวนสมาธิ โดยการรวบรวมการแจ้งเตือนที่ไม่จำเป็นต้องรู้ทันทีในขณะนั้นมาแสดงในเวลาที่เหมาะสมกว่า ส่วนข้อความด่วนก็จะมีการแจ้งเตือนในทันที อีกทั้งยังสามารถปิดการแจ้งเตือนของแอปฯ หรือหัวข้อการสนทนาใดก็ได้ง่าย ๆ แบบชั่วคราวในช่วง 1 ชั่วโมงข้างหน้าหรือตลอดทั้งวัน
Live Text
Live Text ใช้ระบบอัจฉริยะเพื่อตรวจหาข้อความในรูปภาพแล้วให้ผู้ใช้ทำสิ่งต่าง ๆ กับข้อความนั้นได้ เช่น ค้นหาและระบุตำแหน่งของภาพสูตรอาหารที่เขียนด้วยลายมือ หรือเก็บบันทึกหมายเลขโทรศัพท์จากภาพของหน้าร้าน พร้อมตัวเลือกให้โทร. ติดต่อได้ พร้อมทั้งมี Apple Neural Engine ที่ทำให้แอปฯ กล้องสามารถตรวจหาและคัดลอกข้อความได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังมี Visual Look Up ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเรียนรู้เกี่ยวกับงานศิลปะชื่อดังและสถานที่สำคัญทั่วโลก รวมถึงพรรณไม้และดอกไม้ที่พบตามธรรมชาติ สัตว์สายพันธุ์ต่าง ๆ หรือแม้แต่หาหนังสือ
Spotlight
Spotlight ใช้ระบบอัจฉริยะเพื่อค้นหารูปตามตำแหน่งที่ตั้ง ผู้คน ลักษณะสภาพแวดล้อม หรือวัตถุ พร้อมด้วย Live Text ที่ช่วยให้ Spotlight สามารถค้นหาข้อความและลายมือในรูปภาพได้ และในตอนนี้ Spotlight ยังสามารถค้นหารูปภาพบนเว็บ และแสดงผลลัพธ์ในรูปแบบใหม่ ที่มาพร้อมข้อมูลน่าสนใจสำหรับนักแสดง นักดนตรี รายการทีวี และภาพยนตร์ ส่วนการค้นหาผู้ติดต่อก็ได้รับการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น โดยจะแสดงการสนทนาล่าสุด รูปภาพที่แชร์ หรือแม้แต่ตำแหน่งของบุคคลนั้นหากแชร์ผ่าน "ค้นหาของฉัน" ไว้
Safari
เว็บเบราว์เซอร์ Safari มาพร้อมดีไซน์ใหม่ที่ช่วยให้เข้าถึงส่วนควบคุมได้ง่ายขึ้น และแสดงคอนเทนต์อย่างโดดเด่นกลางจอ เริ่มจากแถวของแถบเว็บไซต์แบบใหม่ที่กะทัดรัด ไม่กินพื้นที่ และลอยอยู่ด้านล่างของหน้าจอ เพื่อให้ผู้ใช้สลับไป-มาระหว่างแต่ละแถบได้ง่าย พร้อมทั้งมี Tab Groups ที่ให้ผู้ใช้บันทึกแถบต่าง ๆ เก็บไว้ แล้วกลับมาดูเมื่อไหร่ก็ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นบน iPhone, iPad หรือ Mac รวมทั้งฟีเจอร์ใหม่ ๆ อย่างหน้าเริ่มต้นที่ปรับแต่งได้ และส่วนขยายเว็บของบริษัทอื่นบน iOS
Apple Maps
iOS 15 ได้ยกระดับแผนที่ไปอีกขั้นด้วยวิธีใหม่ในการนำทางและสำรวจ ไม่ว่าจะเป็นรายละเอียดในเมืองที่ดีกว่าเดิมสำหรับเขตต่าง ๆ ย่านการค้า ระดับความสูง และอาคาร รวมถึงสีและป้ายถนนใหม่ แลนด์มาร์กที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ และโหมดเวลากลางคืนที่มีแสงจันทร์ส่องสว่าง โดยแอปฯ แผนที่มาพร้อมประสบการณ์การขับขี่ในเมืองแบบ 3 มิติ ขณะนำทางด้วย iPhone หรือ CarPlay ด้วยรายละเอียดบนท้องถนนแบบใหม่ที่จะช่วยให้ผู้ใช้มองเห็นและเข้าใจรายละเอียดสำคัญต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้น อย่างเลนเลี้ยว เกาะกลาง ช่องทางจักรยาน และทางคนข้าม ส่วนผู้ใช้ระบบขนส่งสาธารณะก็สามารถหาสถานีที่อยู่ใกล้ได้ง่ายขึ้น และปักหมุดสายที่ใช้ประจำได้ นอกจากนี้แอปฯ แผนที่จะติดตามผู้ใช้ไปด้วยโดยอัตโนมัติตลอดเส้นทางขนส่งสาธารณะที่เลือกไว้ พร้อมทั้งแจ้งเตือนเมื่อใกล้ถึงเวลาที่ต้องลงจากรถ
Apple Wallet
Apple Wallet เพิ่มการรองรับกุญแจหลายประเภทมากขึ้น ทำให้สามารถเข้า-ออกสถานที่ต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันได้ง่ายด้วยการแตะครั้งเดียว ด้วยการรองรับเทคโนโลยีอัลตราไวด์แบนด์ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถเปิดล็อกและสตาร์ตรถรุ่นที่รองรับได้อย่างปลอดภัยโดยไม่ต้องหยิบ iPhone ออกมาเลย อีกทั้งยังสามารถใช้ iPhone เพื่อเปิดล็อกประตูบ้าน ที่ทำงาน หรือแม้แต่ห้องโรงแรม ได้โดยใช้เพียงกุญแจที่เก็บไว้ใน Wallet
Privacy
iOS 15 เพิ่มคุณสมบัติด้านความเป็นส่วนตัวอีกมากมาย ซึ่งจะช่วยปกป้องข้อมูลของผู้ใช้ โดยตอนนี้เมื่อมีการจำคำพูดของ Siri บนอุปกรณ์ การประมวลผลเสียงคำขอที่พูดกับ Siri ทั้งหมดนั้นจะเกิดขึ้นบน iPhone ตั้งแต่เริ่มแรก ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานได้มากขึ้น และยังมีฟีเจอร์ "การปกป้องความเป็นส่วนตัวของเมล" ที่ช่วยป้องกันไม่ให้ผู้ส่งทราบว่าอีเมลนั้นถูกเปิดอ่านแล้วหรือไม่ พร้อมกับซ่อนที่อยู่ IP เพื่อไม่ให้ผู้ส่งรู้ตำแหน่งของผู้ใช้ หรือใช้ที่อยู่ IP นั้น เพื่อสร้างโปรไฟล์เกี่ยวกับตัวผู้ใช้ ส่วน "รายงานความเป็นส่วนตัวของแอป" จะแสดงภาพรวมว่าแอปฯ ใช้สิทธิ์การเข้าถึงตำแหน่งที่ตั้ง รูปภาพ กล้อง ไมโครโฟน และรายชื่อ ตามที่ผู้ใช้อนุญาตอย่างไรบ้างในช่วง 7 วันที่ผ่านมา และมีการติดต่อโดเมนอื่นใดบ้าง
Weather
แอปฯ สภาพอากาศมาพร้อมกราฟิกแสดงข้อมูลสภาพอากาศที่มากยิ่งขึ้น รวมทั้งแผนที่แบบเต็มหน้าจอ และการจัดเลย์เอาต์แบบไดนามิกที่จะปรับเปลี่ยนไปตามสภาพอากาศขณะนั้น พร้อมทั้งมีภาพพื้นหลังเคลื่อนไหวที่ออกแบบขึ้นใหม่อย่างสวยงาม ซึ่งจะแสดงตำแหน่งของดวงอาทิตย์รวมถึงปริมาณฝนได้แม่นยำยิ่งขึ้น และมีการแจ้งเตือนเมื่อฝนหรือหิมะเริ่มตกหรือหยุดตกด้วย
Notes
แอปฯ โน้ตเพิ่มแท็กที่ผู้ใช้สร้างเองได้ ซึ่งจะช่วยให้จัดประเภทโน้ตได้ง่ายและรวดเร็ว และสมาชิกของโน้ตที่แชร์ไว้สามารถใช้การกล่าวถึงเพื่อแจ้งให้อีกคนทราบเกี่ยวกับการอัปเดตที่สำคัญได้ และยังมีมุมมอง "กิจกรรม" ใหม่สำหรับแสดงประวัติการแก้ไขล่าสุดในโน้ตที่แชร์ไว้อีกด้วย
นอกจากนี้ iOS 15 ก็ยังมีฟีเจอร์อื่น ๆ เพิ่มเข้ามาอีกมากมาย ซึ่งจะช่วยให้การใช้งานในชีวิตประจำวันของผู้ใช้สะดวกและสมาร์ตยิ่งขึ้น
รายชื่อรุ่น iPhone ที่จะได้อัปเดต iOS 15
- iPhone 12
- iPhone 12 mini
- iPhone 12 Pro
- iPhone 12 Pro Max
- iPhone SE (2020)
- iPhone 11
- iPhone 11 Pro
- iPhone 11 Pro Max
- iPhone XS
- iPhone XS Max
- iPhone XR
- iPhone X
- iPhone 8
- iPhone 8 Plus
- iPhone 7
- iPhone 7 Plus
- iPhone SE
- iPhone 6s
- iPhone 6s Plus
- iPod touch (7th Gen)
iOS 15 จะพร้อมใช้งานเมื่อไหร่ ?
แอปเปิลจะเปิดให้ผู้ใช้สามารถลองใช้งาน iOS 15 beta ได้ในช่วงเดือนสิงหาคม 2564 และจะปล่อยอัปเดต iOS 15 ให้ใช้งานทั่วโลกได้ภายในปลายปี 2564
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก apple.com
