x close

มือถือเปิดตัวใหม่ เดือนตุลาคม 2019 รุ่นไหนน่าซื้อ เช็กเลย

          อัปเดตมือถือเปิดตัวใหม่ ประจำเดือนตุลาคม 2019 มีมือถือใหม่รุ่นไหนน่าสนใจ มาดูมือถือใหม่ปี 2019 น่าซื้อ น่าใช้ เช็กเลย มือถือใหม่เดือนตุลาคม จัดเต็มแน่นอน

มือถือใหม่ 2019

          กลับมาอัปเดตมือถือเปิดตัวใหม่ ประจำเดือนตุลาคม 2019 กันอีกครั้ง หลาย ๆ แบรนด์ยังคงทยอยเปิดตัวมือถือใหม่ออกมาอย่างต่อเนื่อง สำหรับเดือนนี้มีมือถือใหม่น่าสนใจหลายรุ่น เช่น Google Pixel 4, OPPO A5 2020, realme X2 Pro และ Vivo V17 Pro เป็นต้น รวมถึงมือถือที่เปิดตัวกันตั้งแต่ปลายเดือนกันยายนบางรุ่นก็เริ่มทยอยออกวางจำหน่าย

          สำหรับเดือนนี้มีมือถือเปิดตัวใหม่รุ่นไหนน่าสนใจ ใครที่กำลังมองหามือถือใหม่ ลองมาเช็กกันก่อนซื้อ ว่ามีมือถือรุ่นไหนเด็ด น่าจับจองเป็นเจ้าของกันบ้าง ถ้าพร้อมมาติดตามกันเลย

1. Google Pixel 4/Pixel 4 XL

Google Pixel 4

          มือถือเรือธงรุ่นใหม่ของ Google ที่ยังคงชูจุดเด่นในเรื่องกล้องถ่ายภาพที่ดีที่สุด พร้อมปรับโฉมดีไซน์ตัวเครื่องและเปลี่ยนมาใช้กล้องหลังคู่ รวมถึงอัดแน่นไปด้วยฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ เช่น Motion Sense ที่สามารถโบกมือเมื่อสั่งงานต่าง ๆ บนมือถือได้ โดยไม่ต้องแตะที่หน้าจอ นอกจากนี้ยังปรับปรุงกล้องให้ดีขึ้นกว่าเดิม สามารถถ่ายดาวได้, มีฟีเจอร์ Live HDR+ ที่แสดงภาพ HDR+ ได้ตั้งแต่ก่อนถ่าย, ปรับปรุง Portrait mode สร้างโบเก้ได้สวยงามขึ้น และรองรับการถ่ายภาพวัตถุใหญ่ ๆ เช่น รถจักรยานยนต์ รวมถึงการถ่ายภาพที่มีเส้นผมหรือขนสัตว์ก็ทำได้ดีขึ้น

          ด้านสเปก Pixel 4 มีหน้าจอขนาด 5.7 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ OLED ส่วน Pixel 4 XL มีหน้าจอขนาด 6.3 นิ้ว ความละเอียด QHD+ OLED, Refresh rate 90Hz, ใช้ซีพียู Snapdragon 855, แรม 6GB, รัน Android 10 รองรับการอัปเดตนาน 3 ปี ใช้ชิปความปลอดภัย Titan M แบบเดียวกับที่ใช้บนเซิร์ฟเวอร์ของกูเกิล, กล้องหลังคู่ 12.2 ล้านพิกเซล + 16 ล้านพิกเซล เลนส์ Telephoto พร้อมฟีเจอร์ super Res Zoom, กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล

ราคาประมาณ 24,900 บาท

2. realme X2 Pro

realme X2 Pro

          มือถือเรือธงรุ่นแรกของค่าย realme สเปกจัดสุด กล้องจัดเต็ม มาพร้อมหน้าจอ Super AMOLED ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD+, อัตราส่วนพื้นที่การแสดงผล 91.7%, รองรับ HDR10+, DC Dimming 2.0, 90Hz refresh rate, 135Hz touch sampling rate, ซีพียู Snapdragon 855 Plus, แรมสูงสุด 12GB, ระบายความร้อนด้วยของเหลวพร้อมคาร์บอนไฟเบอร์ช่วยระบายความร้อนได้ดีขึ้น, รัน Android Pie ครอบทับด้วย ColorOS

          มีกล้องหลัง 4 ตัว ความละเอียดสูง 64 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ 1/1.72″ Samsung GW1, รูรับแสงกว้าง f/1.8, 8 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้าง 115 องศา (Ultra-wide) สามารถถ่ายมาโคร 2.5cm, 13 ล้านพิกเซล เลนส์ Telephoto รองรับซูม 20 เท่า แบบ Hybrid และ 2 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Depth, กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล

ราคาประมาณ 11,000 บาท

3. OnePlus 7T Pro McLaren Edition

OnePlus 7T Pro McLaren Edition

          มือถือรุ่นพิเศษที่ทาง OnePlus ร่วมกับ McLaren บริษัทผลิตรถสปอร์ตสัญชาติอังกฤษ มาพร้อมดีไซน์สวยอย่างมีสไตล์ด้วยแถบสีส้มด้านข้างตัวเครื่องและฝาหลังกระจกที่มีลวดลายอยู่ด้านล่าง พร้อมโลโก้ McLaren สุดเท่ ส่วนด้านสเปกบางส่วนเหมือนกับ OnePlus 7T Pro รุ่นปกติ แต่รุ่นนี้มีแรม 12GB และรองรับชาร์จเร็ว Warp Charge 30T

ราคา 29,990 บาท

4. OnePlus 7T Pro

OnePlus 7T Pro

          มือถือเรือธงรุ่นอัปเกรดสำหรับครึ่งปีหลัง 2019 โดยรุ่นนี้เป็นอัปเกรดบางส่วนให้ดีขึ้นจากรุ่น OnePlus 7 Pro มาพร้อมหน้าจอ 6.67 นิ้ว Fluid AMOLED ความละเอียด Quad HD+ ไม่มีติ่ง, 90Hz refresh rate, ซีพียู Snapdragon 855 Plus, แรม 8GB, ระบบระบายความร้อน liquid cooling, รัน Android 10.0 ครอบทับด้วย OxygenOS 10, กล้องหลัง 3 ตัว แบ่งเป็น ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX586, เลนส์ 7 ชิ้น, รูรับแสง f/1.6, กันสั่น OIS และ EIS, กล้องตัวที่สอง 8 ล้านพิกเซล (telephoto lens), รูรับแสง f/2.4, ขนาดพิกเซล 1μm, มีกันสั่น OIS, Optical Zoom 3 เท่า, กล้องตัวที่สาม 16 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้าง 117 องศา (Ultra Wide Angle Lens) รูรับแสง f/2.2 และยังมีโหมด NightScape 2.0 สำหรับถ่ายภาพตอนกลางคืนหรือที่แสงน้อยให้ภาพออกมาดูสว่างสดใส กล้องหน้าเหมือน OnePlus 7 Pro เป็นกล้องหน้าป๊อปอัพ 16 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX471, รูรับแสง f/2.0, ขนาดพิกเซล 1.0μm

ราคา 26,990 บาท

5. OPPO Reno Ace

OPPO Reno Ace

          มือถือเรือธงรุ่นใหม่ของ OPPO สเปกจัดเต็ม หน้าจอขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ AMOLED อัตราส่วนพื้นที่การแสดงผล 91.7%, 90Hz refresh rate และ 135Hz touch sampling rate, ซีพียู Snapdragon 855 Plus, แรมสูงสุด 12GB, หน่วยความจำ 128GB/256GB, รัน Android Pie ครอบทับด้วย ColorOS, กล้องหลัง 4 ตัว แบ่งเป็น เลนส์หลัก 48 ล้านพิกเซล พร้อม Ultra steady video mode, กันสั่น OIS กับ EIS และ Ultra Dark mode + 8 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้าง 116 องศา + 13 ล้านพิกเซล เลนส์ Telephoto รองรับไฮบริดซูม 5 เท่า + 2 ล้านพิกเซล เลนส์ Mono, กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล

ราคาประมาณ 13,590 บาท

6. OPPO K5

OPPO K5

          มือถือระดับกลางซีรีส์ K ที่โดดเด่นทั้งการเล่นเกมและถ่ายภาพด้วยกล้องหลังความละเอียดสูงสุด 64 ล้านพิกเซล ด้านสเปกมีหน้าจอขนาด 6.4 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ AMOLED อัตราส่วนการแสดงผล 91.9% เสริมความแกร่งด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 5, ซีพียู Snapdragon 730G, แรมสูงสุด 8GB, หน่วยความจำ 64GB/256GB, รัน Android 9.0 (Pie) ครอบทับด้วย ColorOS 6.0

          กล้องหลัง 4 ตัว แบ่งเป็น เลนส์หลัก 64 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ 1/1.72″ Samsung GW1, f/1.8 + 8 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้าง 119 องศา (Ultra-wide) ขนาดพิกเซล 1.12μm, f/2.25 + 2 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Depth และ 2 ล้านพิกเซล เลนส์ 4cm macro ขนาดพิกเซล 1.75μm, f/2.4 รองรับ AI scene recognition, Chrome boost, Super nightscape และ Expert mode รวมถึงรองรับกันสั่น EIS สำหรับการถ่ายวิดีโอ กล้องหน้ารุ่นนี้ 32 ล้านพิกเซล

ราคาประมาณ 8,000 บาท

7. Motorola One Macro

Motorola One Macro

          มือถือที่เน้นการถ่ายภาพแบบมาโคร สามารถโฟกัสได้ใกล้ถึง 2 ซม. ผ่านเซ็นเซอร์ 2 ล้านพิกเซล ขนาดพิกเซล 1.75µm ด้านสเปกมาพร้อมหน้าจอ 6.2 นิ้ว ความละเอียด HD+ อัตราส่วน 19:9 Max Vision display อัตราส่วนพื้นที่การแสดงผล 82%, ซีพียู MediaTek Helio P70 12nm, แรม 4GB, หน่วยความจำ 64GB, รัน Android 9.0 (Pie), กล้องหลัง 3 ตัว แบ่งเป็น 13 ล้านพิกเซล, laser auto focus + 2 ล้านพิกเซล Portrait shots + 2 ล้านพิกเซล Macro shots, กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล, มีสแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลัง และแบตเตอรี่ 4,000mAh รองรับชาร์จเร็ว 10 วัตต์

ราคาประมาณ 4,290 บาท

8. Redmi 8

Redmi 8

          มือถือรุ่นเล็ก สเปกไม่ธรรมดา สานต่อจาก Redmi 7 อีกรุ่น ด้านสเปกมาพร้อมหน้าจอ 6.22 นิ้ว ความละเอียด HD+ (Dot Notch display) เสริมความแกร่งด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 5, ซีพียู Snapdragon 439 12nm, แรมสูงสุด 4GB, หน่วยความจำ 32GB/64GB, กล้องหลังคู่ 12 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX363 เหมือนกับรุ่น Redmi 8A, รองรับ AI scene detection กว่า 33 ฉาก + 2 ล้านพิกเซล Depth sensor สำหรับถ่าย Portrait ส่วนกล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล รองรับ AI selfies และ Portrait mode รวมถึง AI face unlock มีแบตเตอรี่ 5,000mAh รองรับชาร์จเร็ว 18 วัตต์ ผ่านพอร์ต USB Type-C

ราคา 3,999 บาท (แรม 3GB/32GB), 4,599 บาท (แรม 4GB/64GB)

9. Sony Xperia 8

Sony Xperia 8

          มือถือระดับกลาง มาพร้อมหน้าจอ 6 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ อัตราส่วน 21:9 แบบ Wide Full HD+ เหมือน Sony Xperia 10 เสริมความแกร่งด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 6, ซีพียู Snapdragon 630, แรม 4GB, หน่วยความจำ 64GB, รัน Android 9.0 (Pie), กล้องหลังคู่ 12 + 8 ล้านพิกเซล รองรับการซูม 2 เท่า แบบ Optical zoom, กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล, มีสแกนลายนิ้วมืออยู่ที่ด้านข้างตัวเครื่อง, กันน้ำ (IPX5 / 8) กันฝุ่น (IP6X), บอดี้ด้านหลังเป็นกระจก Corning Gorilla Glass 6, รองรับ Sony’s High-Resolution Audio และ LDAC ปิดท้ายด้วยแบตเตอรี่ 2,760mAh

ราคาประมาณ 15,000 บาท

10. Samsung Galaxy A70s

Samsung Galaxy A70s

          มือถือซีรีส์ Galaxy A รุ่นใหม่ ที่สานต่อจากรุ่น Galaxy A70 ยังคงเอกลักษณ์มือถือหน้าจอใหญ่ สเปกสุดคุ้ม พร้อมกล้องคุณภาพ โดยรุ่นนี้อัปเกรดกล้องหลังเป็น 64 ล้านพิกเซล เป็นมือถือรุ่นแรกของ Samsung ที่มีกล้องหลังความละเอียด 64 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องหน้ายังคงไว้ที่ 32 ล้านพิกเซล เหมือนเดิม นอกจากนี้ยังมีการปรับเปลี่ยนดีไซน์ฝาหลังใหม่เป็นแบบ Geometric และ Holographic ลวดลายแบบเรขาคณิตเพื่อกระทบกับแสงจะทำให้เกิดเอฟเฟกต์ที่สวยงาม

          มีหน้าจอขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ แบบ Infinity-U Super AMOLED, อัตราส่วน 20:9, ซีพียู Octa-Core Snapdragon 675, รัน Android Pie ครอบทับด้วย Samsung One UI, แรมสูงสุด 8GB, หน่วยความจำ 128GB, กล้องหลัง 3 ตัว แบ่งเป็น 64 ล้านพิกเซล, f/1.8 + 5 ล้านพิกเซล Portrait shots + 8 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้าง 123 องศา (Ultra-wide) และแบตเตอรี่ 4,500mAh รองรับ Super-Fast Charging 25 วัตต์

ราคาประมาณ 12,900 บาท

11. OnePlus 7T

OnePlus 7T

          มือถือเรือธงรุ่นอัปเกรดสำหรับครึ่งปีหลัง 2019 โดยรุ่นนี้อัปเกรดสเปกให้ดีกว่า OnePlus 7 มาพร้อมหน้าจอ 6.55 นิ้ว Fluid AMOLED ความละเอียด Full HD+, มีติ่ง, รองรับ 90Hz refresh rate, HDR10+, อัตราส่วน 20:9, กระจก 3D Corning Gorilla Glass, ซีพียู Octa-Core Snapdragon 855 Plus, แรม 8GB, ระบบระบายความร้อน Graphite heat sink, รัน Android 10.0 ครอบทับด้วย OxygenOS 10

          กล้องหลัง 3 ตัว ดีไซน์ใหม่แบบวงกลม ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX586, กันสั่น OIS, 16 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้าง 117 องศา สามารถถ่ายมาโครได้ 2.5 macro และ 12 ล้านพิกเซล เลนส์ Telephoto รองรับการซูม 2 เท่า แบบ Optical zoom รวมถึงมี Nightscape Mode, กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX471

ราคา 17,990 บาท (แรม 8GB/128GB)

12. Vivo U3x

Vivo U3x

          มือถือที่รีแบรนด์มาจาก Vivo U10 ที่เปิดตัวและวางจำหน่ายที่อินเดียไปก่อนหน้านี้ ด้านสเปกมาพร้อมหน้าจอ 6.35 นิ้ว ความละเอียด HD+ Halo FullView display, ซีพียู Snapdragon 665, แรมสูงสุด 4GB, หน่วยความจำ 32GB/64GB, รัน Android 9.0 (Pie) ครอบทับด้วย Funtouch OS 9, กล้องหลัง 3 ตัว แบ่งเป็น 13 ล้านพิกเซล + 8 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้าง (Ultra-wide) + 2 ล้านพิกเซล (Portrait bokeh), กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล, วัสดุตัวเครื่องเป็นพลาสติกไล่เฉดสีตามสมัยนิยม พร้อมแบตเตอรี่ 5,000mAh รองรับชาร์จเร็ว 18 วัตต์ และยังเคลมว่าชาร์จแค่ 10 นาที สามารถคุยโทรศัพท์ได้ 4.5 ชั่วโมง

ราคาประมาณ 3,490 บาท

13. Redmi 8A

Redmi 8A

          มือถือราคาประหยัด สานต่อจากรุ่น Redmi 7A เพื่อเป็นตัวเลือกให้กับคนที่มีงบประมาณในการซื้อที่จำกัด โดยรุ่นนี้ได้อัปเกรดหลาย ๆ ส่วนให้ดีขึ้นกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอขนาดใหญ่ขึ้น 6.22 นิ้ว พร้อมติ่งหยดน้ำ แบตเตอรี่ความจุ 5,000mAh รองรับชาร์จเร็ว 18 วัตต์ (ในกล่องแถมชาร์จเร็ว 10 วัตต์) ผ่านพอร์ต USB Type-C, ใช้ซีพียู Octa-Core Snapdragon 439, แรมสูงสุด 3GB, หน่วยความจำ 32GB, รัน Android Pie ครอบทับด้วย MIUI 10, กล้องหลัง 12 ล้านพิกเซล, กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล, ไม่มีสแกนลายนิ้วมือ แต่มีปลดล็อกด้วยใบหน้า (Face Unlock)

ราคาประมาณ 2,799 บาท

14. Xiaomi Mi MIX Alpha

Xiaomi Mi MIX Alpha

          มือถือแห่งอนาคตที่มาพร้อมดีไซน์แบบล้ำยุคด้วยหน้าจอโอบไปถึงด้านหลังตัวเครื่อง ทาง Xiaomi เรียกหน้าจอแบบใหม่นี้ว่า Surround display อัตราส่วนการแสดงผลกินพื้นที่ 180.6% และยังเป็นมือถือรุ่นแรกของโลกที่มาพร้อมกล้อง 3 ตัว ความละเอียด 108 ล้านพิกเซล ความละเอียดของภาพ 12,032 x 9,024 พิกเซล ซูมภาพ 8 เท่า แบบไม่เสียรายละเอียด วัสดุตัวเครื่องพรีเมียมทำมาจากไทเทเนียมอัลลอยด์ที่มีความแข็งกว่าสแตนเลส 3 เท่าตรงบริเวณแถบกล้องด้านหลังเป็นเซรามิก และกระจกครอบเลนส์กล้องเป็นแซฟไฟร์ ส่วนลำโพงของรุ่นนี้ถูกติดตั้งเอาไว้ใต้จอ

ราคาประมาณ 85,900 บาท

15. Xiaomi Mi 9 Pro 5G

Xiaomi Mi 9 Pro 5G

          มือถือระดับเรือธง สเปกแรง รองรับ 5G มาพร้อมหน้าจอ 6.39 นิ้ว Super AMOLED ความละเอียด Full HD+, กระจก Corning Gorilla Glass 6, อัตราส่วนการแสดงผล 90.7%, ขอบด้านล่างบาง 3.6 มิลลิเมตร, ซีพียู Snapdragon 855 Plus 7nm พร้อมโมเด็ม Snapdragon X50 5G รองรับ 7 เสาอากาศ ความเร็วดาวน์โหลดสูงสุด 2.02Gbps (ทดสอบใน Lab) และ 1.78Gbps (ทดสอบภาคสนาม), เร็วกว่า Mi 9 ถึง 10 เท่า และระบบระบายความร้อนทรงตัว L ที่สามารถลดอุณหภูมิซีพียูลง 10.2 องศาเซลเซียส, แรมสูงสุด 12GB และรัน Android 9.0 (Pie) ครอบทับด้วย MIUI 11

ราคาประมาณ 15,900 บาท

16. Vivo U10

Vivo U10

          มือถือระดับกลางซีรีส์ U สเปกสุดคุ้ม แบตเตอรี่อึด จอใหญ่ พร้อมกล้องหลัง 3 ตัว ด้านสเปกมาพร้อมหน้าจอ 6.35 นิ้ว ความละเอียด HD+ Halo FullView display, ซีพียู Snapdragon 665, แรมสูงสุด 4GB, หน่วยความจำ 32GB/64GB, รัน Android 9.0 (Pie) ครอบทับด้วย Funtouch OS 9, กล้องหลัง 3 ตัว แบ่งเป็น 13 ล้านพิกเซล + 8 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้าง (Ultra-wide) + 2 ล้านพิกเซล (Portrait bokeh), กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล, วัสดุตัวเครื่องเป็นพลาสติกไล่เฉดสีตามสมัยนิยม พร้อมแบตเตอรี่ 5,000mAh รองรับชาร์จเร็ว 18 วัตต์ และยังเคลมว่าชาร์จแค่ 10 นาที สามารถคุยโทรศัพท์ได้ 4.5 ชั่วโมง

ราคาประมาณ 3,890 บาท

17. realme X2

realme X2

          มือถือ 4 กล้อง ความละเอียดสูง 64 ล้านพิกเซล ตามมาอีกรุ่น โดยรุ่นนี้มีดีไซน์ตัวเครื่องเหมือนกับ Realme XT ส่วนที่แตกต่างจะเป็นสเปกที่ปรับให้สูงขึ้นกว่าเดิม มาพร้อมหน้าจอ 6.4 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ AMOLED อัตราส่วนการแสดงผล 91.9% กระจก Corning Gorilla Glass 5, ซีพียู Snapdragon 730G, แรมสูงสุด 8GB, หน่วยความจำ 64GB/128GB (UFS 2.1), รัน Android 9.0 (Pie) ครอบทับด้วย ColorOS 6.0, กล้องหลัง 4 ตัว แบ่งเป็น เลนส์หลัก 64 ล้านพิกเซล ขนาดเซ็นเซอร์ 1/1.72″ Samsung GW1, f/1.8 + กล้อง 8 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้าง 118 องศา (Ultra-wide) ขนาดพิกเซล 1.12μm, f/2.25 + กล้อง 2 ล้านพิกเซล (Depth sensor) และกล้อง 2 ล้านพิกเซล (4cm macro) ขนาดพิกเซล 1.75μm, f/2.4 ส่วนกล้องหน้า 32 ล้านพิกเซล, f/2.0

ราคาประมาณ 6,900 บาท

18. Samsung Galaxy M10s

Samsung Galaxy M10s

          มือถือราคาประหยัด หน้าจอใหญ่ ปรับสเปกใหม่ตามมาอีกรุ่น มาพร้อมหน้าจอ 6.4 นิ้ว ความละเอียด HD+ Super AMOLED Infinity-V, ซีพียู Exynos 7884B Octa-Core, แรม 3GB, หน่วยความจำ 32GB, รัน Android 9.0 (Pie) ครอบทับด้วย Samsung One UI, กล้องหลังคู่ 13+5 ล้านพิกเซล, กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล รองรับ Face Unlock, มีสแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลัง และแบตเตอรี่ 4,000mAh รองรับชาร์จเร็ว 15 วัตต์

ราคาประมาณ 3,890 บาท

19. OPPO A5 2020

OPPO A5 2020

          มือถือราคาประหยัด สเปกสุดคุ้ม ดีไซน์ฝาแฝด OPPO A9 2020 ด้านสเปกมาพร้อมหน้าจอ Waterdrop Screen ขนาด 6.5 นิ้ว ดีไซน์แบบ 3D, ซีพียู Snapdragon 665 พร้อม Game Boost 2.0, แรม 3GB/4GB, หน่วยความจำ 64GB/128GB, มีกล้องหลัง 4 ตัว ความละเอียด 12+8+2+2 ล้านพิกเซล มาพร้อมโหมด Ultra Wide และ Ultra Night Mode 2.0 กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล พร้อมกับ AI Beauty 2.0 และตอบโจทย์ด้านความบันเทิงด้วยระบบเสียง Dolby Atmos พร้อมกับลำโพงสเตอริโอแบบคู่ และปิดท้ายด้วยแบตเตอรี่ 5,000mAh ที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่ให้กับอุปกรณ์อื่นได้

ราคา 4,999 บาท

20. Samsung Galaxy A20s

Samsung Galaxy A20s

          มือถือซีรีส์ Galaxy A ที่อัปเกรดสเปกมาจาก Galaxy A20 โดยรุ่นนี้มาพร้อมหน้าจอใหญ่ Infinity-V display ขนาด 6.5 นิ้ว กล้องหลัง 3 ตัว แบ่งเป็นกล้องหลักความละเอียด 13 ล้านพิกเซล, กล้อง Depth ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล และกล้องอัลตร้าไวด์ที่ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้าง 120 องศา ใช้ซีพียู Snapdragon450 แรมสูงสุด 4GB พร้อมหน่วยความจำ 64GB รองรับ microSD สูงสุด 512GB มีสแกนลายนิ้วมือและระบบจดจำใบหน้า ดีไซน์ตัวเครื่องด้านหลังมันเงาและส่วนโค้งเรียบเนียน มีขนาดกระชับรับกับมือ มาพร้อมสีดำ, สีน้ำเงิน, สีแดง และสีเขียว ปิดท้ายด้วย แบตเตอรี่ขนาด 4,000mAh พร้อมเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 15 วัตต์

ราคา 6,490 บาท (แรม 4GB/64GB)

21. Vivo V17 Pro

Vivo V17 Pro

          มือถือ 6 กล้อง ซีรีส์ V รุ่นล่าสุด มาพร้อมกล้องหน้าป๊อปอัพคู่รุ่นแรกของโลก พร้อมความละเอียด 32 ล้านพิกเซล และเลนส์มุมกว้าง 105 องศา ช่วยให้ถ่ายภาพเซลฟี่มุมกว้างด้วย Super Wide Selfie และเซลฟี่กลางคืนได้สว่างไสวด้วย Super Night Mode มีหน้าจอขนาด 6.44 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ Super AMOLED, อัตราส่วน 20:9 Full View display อัตราส่วนการแสดงผล 91.65%, ซีพียู Snapdragon 675, แรม 8GB, รัน Android Pie ครอบทับด้วย Funtouch OS 9, กล้องหลัง 4 ตัว เลนส์หลัก 48 ล้านพิกเซล, 8 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้าง 120 องศา พร้อม 2.5cm Super Macro, 13 ล้านพิกเซล เลนส์ Telephoto รองรับซูมออปติคอล 2 เท่า และดิจิทัล 10 เท่า, 2 ล้านพิกเซล (Portrait)

ราคา 12,999 บาท

22. Samsung Galaxy M30s

Samsung Galaxy M30s

          มือถือราคาประหยัดซีรีส์ Galaxy M รุ่นใหม่ มาพร้อมหน้าจอ 6.4 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ Infinity-U Super AMOLED, ซีพียู Exynos 9611 10nm SoC, แรมสูงสุด 6GB, รัน Android Pie ครอบทับด้วย Samsung One UI 1.5, กล้องหลัง 3 ตัว แบ่งเป็น 48 ล้านพิกเซล + 8 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้าง 123 องศา + 5 ล้านพิกเซล Depth sensor และกล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล

          บอดี้ตัวเครื่องเป็นพลาสติกแบบทูโทน, รองรับ 2 ซิม และ microSD, แบตเตอรี่ 6,000mAh รองรับชาร์จเร็ว 15 วัตต์ ผ่านพอร์ต USB Type-C โดยทาง Samsung เคลมว่า สามารถดูวิดีโอต่อเนื่อง 29 ชั่วโมง, โทร. คุยนาน 49 ชั่วโมง และเล่นเพลงได้นาน 131 ชั่วโมง ตัวเครื่องมีน้ำหนักแค่ 188 กรัม

ราคาประมาณ 6,000 บาท

มือถือเปิดตัวใหม่ เดือนกันยายน 2019 เช็กเลย รุ่นไหนน่าซื้อ

          หมายเหตุ: ราคามือถืออาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับร้านที่วางจำหน่าย อย่าลืมสอบถามราคาล่าสุดก่อนซื้อทุกครั้ง และมือถือบางรุ่นยังไม่ได้วางจำหน่ายในประเทศไทย

สนใจให้ Kapook.com รีวิวสินค้ามีสเปก จัดทำวิดีโอโปรโมต หรือ Content และ Social Marketing คลิกดูรายละเอียดกันเลย

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
มือถือเปิดตัวใหม่ เดือนตุลาคม 2019 รุ่นไหนน่าซื้อ เช็กเลย อัปเดตล่าสุด 17 ตุลาคม 2562 เวลา 14:15:11 18,213 อ่าน
TOP