มือถือเปิดตัวใหม่ เดือนกรกฎาคม 2019 เช็กเลย รุ่นไหนน่าซื้อ

          อัปเดตมือถือเปิดตัวใหม่ ประจำเดือนกรกฎาคม 2019 มีมือถือใหม่รุ่นไหนเปิดตัวบ้าง มือถือใหม่ปี 2019 รุ่นไหนน่าซื้อ น่าใช้ เช็กเลย มือถือใหม่เดือนกรกฎาคม

          กลับมาอัปเดตมือถือเปิดตัวใหม่ ประจำเดือนกรกฎาคม 2019 กันอีกครั้ง ต้องบอกเลยว่าตลาดมือถือในเดือนนี้ยังคงร้อนแรงต่อเนื่อง ตลอดทั้งเดือนมีมือถือรุ่นใหม่ เปิดตัวมากมายหลายรุ่น จากหลากหลายแบรนด์ โดยเฉพาะมือถือซีรีส์ nova รุ่นใหม่จาก Huawei ก็เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว รวมถึงมือถือที่เปิดตัวกันตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายนบางรุ่นก็เริ่มทยอยออกวางจำหน่าย

          สำหรับเดือนนี้มีมือถือเปิดตัวใหม่รุ่นไหนน่าสนใจ ใครที่กำลังมองหามือถือใหม่ ลองมาเช็กกันก่อนซื้อ ว่ามีมือถือรุ่นไหนเด็ด รุ่นไหนที่โดนใจน่าจับจองเป็นเจ้าของกันบ้าง ถ้าพร้อมมาติดตามกันเลย

1. Vivo Y12

          มือถือระดับกลางซีรีส์ Y รุ่นใหม่ ที่เตรียมวางจำหน่ายในประเทศไทยเร็ว ๆ นี้ มาพร้อมหน้าจอ 6.35 นิ้ว Halo FullView Display ติ่งทรงหยดน้ำ อัตราส่วน 19.3:9 คิดเป็นพื้นที่ใช้งาน 89%, ซีพียู Octa-Core MediaTek Helio P22 12nm, แรมสูงสุด 4GB, รัน Android Pie ครอบทับด้วย Funtouch OS, มี Ultra Game Mode, กล้องหลัง 3 ตัว แบ่งเป็นกล้องหลัก 13 ล้านพิกเซล, 8 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้าง 120 องศา Super Wide-Angle และ 2 ล้านพิกเซล เลนส์ Depth Camera ส่วนกล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล, ดีไซน์ไล่เฉดสี ด้านหลังมีสแกนลายนิ้วมือ และมีแบตเตอรี่ความจุ 5,000mAh

ราคา 4,999 บาท

2. Huawei nova 5 และ nova 5 Pro

          มือถือซีรีส์ nova ราคาย่อมเยา เปิดตัวพร้อมกัน 2 รุ่น มีสเปกบางส่วนเหมือนกัน รวมถึงดีไซน์ตัวเครื่อง ส่วนที่แตกต่างจะเป็นซีพียูและหน่วยความจำ สำหรับรุ่น Huawei nova 5 จะใช้ซีพียู Kirin 810 เป็นรุ่นแรกของ Huawei ส่วน Huawei nova 5 Pro จะใช้ซีพียู Kirin 980 ตัวเดียวกับ Huawei P30 Pro และหน่วยความจำ 256GB

          นอกจากนี้ยังมีสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ ดีไซน์ตัวเครื่องไล่เฉดสีด้วยวัสดุกระจก 3D ที่ด้านหลัง, มีแบตเตอรี่ 3,500mAh รองรับชาร์จเร็ว 40 วัตต์ Huawei SuperCharge สามารถชาร์จแบตเตอรี่ 50% ในเวลา 15 นาที และ 85% ในเวลา 30 นาที

ราคาประมาณ 13,590 บาท

3. Huawei nova 5i

          Huawei nova 5i หรืออีกชื่อ Huawei P20 Lite (2019) ที่วางขายอยู่ในตลาดมือถือยุโรป มีดีไซน์และสเปกบางส่วนเหมือนกัน มาพร้อมหน้าจอ 6.4 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ คิดเป็นพื้นที่ใช้งาน 90.8%, กล้องหน้าบนหน้าจอ 24 ล้านพิกเซล, ซีพียู Kirin 710, แรมสูงสุด 8GB, รัน Android Pie ครอบทับด้วย EMIUI 9.1, กล้องหลัง 4 ตัว แบ่งเป็นกล้องหลัก 24 ล้านพิกเซล, 8 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้าง (Ultra-wide), 2 ล้านพิกเซล เลนส์ 4cm macro และ 2 ล้านพิกเซล สำหรับถ่าย Portrait, ดีไซน์ไล่เฉดสีเป็นรูปตัว S, มีสแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลัง และแบตเตอรี่ความจุ 4,000mAh

ราคาประมาณ 8,900 บาท

4. Wiko Sunny4 Plus

          มือถือราคาถูก ระดับเริ่มต้น เหมาะสำหรับคนที่มีงบจำกัด มาพร้อมหน้าจอหน้าจอขนาด 5.45 นิ้ว ความละเอียด HD+ อัตราส่วน 18:9, ความจำภายในขนาด 16GB, ซีพียู Quad-Core, แรม 1GB, รันระบบปฏิบัติการ Android 9 Pie (Go Edition) รองรับการปลดล็อกหน้าจอด้วยใบหน้า สามารถสแตนด์บายบนสัญญาณ 3G ได้พร้อมกันทั้งสองซิม, กล้องหน้าและกล้องหลังเท่ากันที่ 5 ล้านพิกเซล พร้อมโหมด Face Beauty และ HDR ตัวเครื่องมีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีน้ำเงินดาร์กบลู (Gardient darkblue), สีเขียวบลีน(Gradient bleen) และสีทอง (Gold)

ราคา 2,090 บาท

5. LG W10

          มือถือซีรีส์ใหม่ของ LG ที่ออกมาเพื่อลุยตลาดมือถือประเทศอินเดีย เน้นเจาะกลุ่มผู้ใช้ที่ต้องการมือถือราคาประหยัด สเปกคุ้มค่า โดยรุ่นนี้มาพร้อมหน้าจอไร้ขอบ มีรอยบากแบบ FullVision Notch Display ขนาด 6.19 นิ้ว กล้องหลังคู่ (AI Dual Camera) และแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 4,000mAh ใช้ซีพียู MediaTek Helio P22, แรม 3GB, หน่วยความจำ 32GB, รัน Android 9.0 (Pie) ส่วนระบบความปลอดภัยมีทั้งสแกนใบหน้า (Face-unlock) และสแกนลายนิ้วมือ

ราคาประมาณ 3,990 บาท

6. LG G8S ThinQ

          มือถือระดับเรือธงสำหรับวางขายนอกเกาหลี มาพร้อมหน้าจอ 6.2 นิ้ว FullVision ความละเอียด Full HD+, หน้าจอแบบ OLED, ซีพียู Snapdragon 855, แรม 6GB, รัน Android Pie, กล้องหลัง 3 เลนส์ แบ่งเป็นเลนส์หลัก 12 ล้านพิกเซล, 13 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้าง 137 องศา (super wide-angle) และ 12 ล้านพิกเซล (telephoto lens) ส่วนกล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล พร้อมเซ็นเซอร์ 3D ToF ที่ช่วยตรวจวัดระยะความลึก ทำให้ฉากหลังเบลอได้อย่างเรียบเนียน และมีลำโพงสเตอริโอ, ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. และ DAC, กระจก Gorilla Glass 2.5D ที่ด้านหลัง และยังกันกระแทกตามมาตรฐาน MIL-STD 810G รวมถึงป้องกันน้ำกันฝุ่น IP68

ราคาประมาณ 26,690 บาท

7. Vivo iQOO Neo

          มือถือซีรีส์ iQOO อีกรุ่น หลังจากเปิดตัว Vivo iQOO ที่เป็นรุ่นท็อปสุดไปก่อนหน้านี้ สำหรับรุ่นนี้เป็นมือถือระดับกลางที่ปรับลดสเปกบางส่วนลงมา เพื่อให้คุ้มค่าและราคาประหยัด เหมาะสำหรับคนที่ต้องการมือถือด้านเกมมิ่งโดยเฉพาะ ด้านสเปกมาพร้อมหน้าจอ 6.39 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ ติ่งทรงหยดน้ำ คิดเป็นพื้นที่ใช้งาน 90.0%, ใช้ซีพียู Snapdragon 845 พร้อม liquid cooling, แรมสูงสุด 8GB, รัน Android Pie, กล้องหลัง 3 เลนส์ แบ่งเป็น 12 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX363, 8 ล้านพิกเซล (Ultra-wide lens) และ 2 ล้านพิกเซล (Portrait shots) ส่วนกล้องหน้า 12 ล้านพิกเซล รวมถึงมีสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ และแบตเตอรี่ความจุ 4,500mAh พร้อมชาร์จเร็ว 22.5 วัตต์ ที่เคลมว่าสามารถชาร์จจาก 0 ถึง 50% ในเวลา 30 นาที

ราคาประมาณ 8,000 บาท

8. Xiaomi Mi CC9 และ Mi CC9e

          มือถือซีรีส์ใหม่ของ Xiaomi ออกแบบมาเพื่อผู้ใช้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง พร้อมด้วยเทคโนโลยี AI ที่ช่วยปรับแต่งภาพให้ง่ายขึ้นกว่าเดิม รวมถึงคนที่ต้องการมือถือที่มีแบตเตอรี่อึดใช้งานได้ยาวนาน ฟีเจอร์เด่น ๆ ใช้หน้าจอ AMOLED ของซัมซุง, สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอรุ่นที่ 7, กล้องหลัง 3 เลนส์ แบ่งเป็น 48 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX586, f/1.79, 8 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้าง 118 องศา (Ultra-wide angle) และ 2 ล้านพิกเซล (depth sensor) ส่วนกล้องหน้า 32 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์ของซัมซุง ขนาดพิกเซล 1.6μm พร้อมโหมด AI beautify

ราคาประมาณ 8,000 บาท

9. Vivo Z1 Pro

          มือถือระดับกลาง สเปกสุดคุ้ม ราคาประหยัด มีทั้งสเปกบางส่วนเหมือนกับ Vivo Z5x ที่เปิดตัวในประเทศจีนเมื่อเดือนพฤษภาคม ส่วนที่แตกต่างจะเป็นซีพียู โดยรุ่น Z1 Pro จะใช้ซีพียู Snapdragon 712 แทน Snapdragon 710 และอัปเกรดกล้องหน้าเป็น 32 ล้านพิกเซล ใช้หน้าจอแบบเจาะรู (Punch-Hole) ขนาด 6.53 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ LCD คิดเป็นพื้นที่ใช้งาน 90.77% ขอบจอบาง 1.76 มิลลิเมตร รัน Android Pie ครอบทับด้วย Funtouch, กล้องหลัง 3 เลนส์ แบ่งเป็น 16 ล้านพิกเซล, 8 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้าง 120 องศา และ 2 ล้านพิกเซล (Depth sensing)

ราคาประมาณ 6,690 บาท

10. Lenovo Z6

          มือถือระดับกลาง สเปกสุดคุ้ม ลงสู่ตลาดอีกรุ่น ด้านสเปกมีหน้าจอ 6.39 นิ้ว OLED ติ่งทรงหยดน้ำ ความละเอียด Full HD+ อัตราส่วน 19.5:9 คิดเป็นพื้นที่ใช้งาน 93.1% รองรับ HDR10+, DCI-P3 color gamut และ Refresh Rate 120Hz พร้อมสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอรุ่นที่ 6 รใช้ซีพียู Snapdragon 730 ความเร็ว 2.2 GHz Octa-core, แรม 6GB/8GB, หน่วยความจำ 64GB/128GB, กล้องหลัง 3 เลนส์ 24 + 8 + 5 ล้านพิกเซล กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล วัสดุตัวเครื่องใช้อะลูมิเนียมซีรีส์ 6000 กับกระจก ดีไซน์สวยแบบเรียบ ๆ และมีแบตเตอรี่ 4,000mAh รองรับชาร์จเร็ว 15 วัตต์

ราคาประมาณ 8,490 บาท

11. Motorola P50

          อีกหนึ่งเวอร์ชั่นของ Motorola One Vision ออกมาเพื่อวางจำหน่ายในประเทศจีนโดยเฉพาะ พร้อมกับปรับสเปกบางส่วนใหม่ โดยรุ่นนี้จะมาพร้อมแรม 6GB + หน่วยความจำ 128GB ด้านสเปกมาพร้อมหน้าจอเจาะรูขนาด 6.3 นิ้ว แบบ CinemaVision ที่มีอัตราส่วน 21:9 พร้อมกล้องหลังคู่ความละเอียดสูงสุด 48 ล้านพิกเซล ตามสมัยนิยม และกล้องหน้า 25 ล้านพิกเซล มีสแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลัง รวมถึงรัน Android 9.0 Pie ที่การันตีการอัปเดตซอฟต์แวร์เวอร์ชั่นล่าสุดจาก Google เป็นระยะเวลา 2 ปี และอัปเดตความปลอดภัยเป็นระยะเวลา 3 ปี

          กล้องหน้า 25 ล้านพิกเซล ขนาดพิกเซล 1.8µm เทคโนโลยี Quad Pixel ที่ช่วยให้การถ่ายภาพเซลฟี่ในที่แสงน้อยได้ดีขึ้น ส่วนกล้องหลังคู่ 48 ล้านพิกเซล พร้อมโหมด Night Vision, กันสั่น OIS, มีเทคโนโลยี Quad Pixel, ขนาดพิกเซล 1.6µm สามารถถ่ายภาพความละเอียดสูง 12 ล้านพิกเซล กล้องตัวที่สอง 5 ล้านพิกเซล, ดีไซน์ตัวเครื่องแบบ 4D ใช้กระจก Corning Gorilla Glass ไล่เฉดสีสวยงาม พร้อมแบตเตอรี่ 3,500mAh ที่เคลมว่าสามารถใช้งานได้เต็ม ๆ วัน และยังรองรับชาร์จเร็ว 15 วัตต์ TurboPower ชาร์จ 15 นาที ใช้งานได้นาน 7 ชั่วโมง

ราคาประมาณ 11,190 บาท

12. Honor Play 8

          มือถือระดับเริ่มต้น ราคาประหยัด สเปกสุดคุ้ม มาพร้อมหน้าจอ 5.71 นิ้ว ความละเอียด HD+ DewDrop notch (ติ่งทรงหยดน้ำ) สัดส่วนพื้นที่การใช้งาน 84.6%, ซีพียู MediaTek Helio A22, แรม 2GB, รัน Android Pie ครอบทับด้วย EMUI 9.0, กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล, กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล, ไม่มีสแกนลายนิ้วมือ ปลดล็อกด้วยใบหน้า, ฝาหลังดีไซน์แบบทูโทน และแบตเตอรี่ 3,020mAh

ราคาประมาณ 2,690 บาท

13. Vivo S1

          มือถืออีกรุ่นที่เป็นเวอร์ชั่นสำหรับประเทศในกลุ่มอาเซียน หลังจากเปิดตัว Vivo S1 เวอร์ชั่นประเทศจีนไปก่อนหน้านี้ โดยข้อมูลทั้งหมดถูกเปิดเผยผ่านเว็บไซต์ Vivo ประเทศอินโดนีเซีย และแน่นอนรุ่นนี้เตรียมเข้ามาวางจำหน่ายในประเทศไทยด้วยเช่นกัน สำหรับ Vivo S1 เวอร์ชั่นนี้มีดีไซน์และสีสันของตัวเครื่องแตกต่างจาก S1 ของจีน รวมถึงสเปกต่าง ๆ ที่ไม่เหมือนกัน

          ด้านสเปกมีหน้าจอขนาด 6.38 นิ้ว Super AMOLED แบบ Halo FullView Display มีติ่งทรงหยดน้ำ อัตราส่วน 19.5:9 คิดเป็นพื้นที่ใช้งาน 90% พร้อมสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ รัน Android 9 Pie ครอบทับด้วย Funtouch OS 9 ใช้ซีพียู MediaTek Helio P65 แรม 6GB หน่วยความจำ 128GB และความจุแบตเตอรี่ 4,500mAh รองรับชาร์จเร็ว 18 วัตต์ ในส่วนของกล้องหน้ามีความละเอียด 32 ล้านพิกเซล (F2.0) กล้องหลัง 3 ตัว แบ่งเป็น 16 + 8 + 2 ล้านพิกเซล (F1.78 + F2.2 + F2.4) ขนาดตัวเครื่อง 159.53 x 75.23 x 8.13 มิลลิเมตร และน้ำหนัก 179 กรัม

ราคา 8,999 บาท

14. Realme 3i

         Realme 3i หรืออีกชื่อ Realme 3 (ที่วางขายอยู่ในประเทศไทย) แตกต่างกันตรงที่สีสันของตัวเครื่องที่รุ่น Realme 3i ใช้ดีไซน์แบบ Diamond-cut ด้านสเปกมาพร้อมหน้าจอ 6.22 นิ้ว ความละเอียด HD+ อัตราส่วน 19:9 ขอบจอบาง 2.05 มิลลิเมตร, คิดเป็นพื้นที่ใช้งาน 88.30%, ใช้ซีพียู MediaTek Helio P60, แรม 3GB + 32GB, แรม 4GB + 64GB, รัน Android 9.0 (Pie) ครอบทับด้วย ColorOS 6.0, กล้องหลังคู่ 13 + 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 พร้อมโหมด 2 โหมดใหม่ Nightscape สำหรับการถ่ายภาพในที่แสงน้อยและ Chroma Boost ทำให้สีสดใสขึ้นและปรับปรุงช่วงไดนามิกเพื่อให้ได้ภาพที่มีความสมดุลมากขึ้น, กล้องหน้า 13 ล้านพิกเซล มีโหมด AI Beauty, DIY Beautify พร้อมระบบปลดล็อกด้วยใบหน้า (Face Unlock) และแบตเตอรี่ 4,230mAh

ราคาประมาณ 3,590 บาท

15. Vivo Y7s

         มือถือซีรีส์ Y รุ่นใหม่ หรืออีกเวอร์ชั่นของ Vivo S1 ที่ปรับลดกล้องหน้าจาก 32 ล้านพิกเซล เหลือแค่ 16 ล้านพิกเซล สเปกด้านอื่น ๆ รวมถึงดีไซน์ตัวเครื่องเหมือนกันทั้งหมด สำหรับ Vivo Y7s มาพร้อมหน้าจอ 6.38 นิ้ว Super AMOLED ความละเอียด Full HD+, อัตราส่วน 19.5:9, ซีพียู Octa-Core MediaTek Helio P65 (MT6768), แรม 6GB, หน่วยความจำ 128GB, รัน Android 9.0 Pie ครอบทับด้วย Funtouch OS 9, มีสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอและสแกนใบหน้า (AI face unlock) แบตเตอรี่ 4,500mAh รองรับ Dual Engine fast charging 18 วัตต์

ราคาประมาณ 8,000 บาท

16. Xiaomi Mi A3

          มือถือ Android One รุ่นใหม่ มีหน้าจอขนาด 6.088 นิ้ว ความละเอียด HD+ AMOLED, ซีพียู Snapdragon 665, แรม 4GB, หน่วยความจำ 64GB/128GB (UFS 2.1), รัน Android 9.0 (Pie) แบบ Pure Android, สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอรุ่นที่ 7 เพิ่มพื้นที่การสแกนถึง 15%, กล้องหลัง 3 ตัว ตามสมัยนิยม แบ่งเป็น 48 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX586, f/1.79, 8 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้าง 118 องศา (Ultra-wide angle) และ 2 ล้านพิกเซล (depth sensor) ส่วนกล้องหน้า 32 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์ของซัมซุง ขนาดพิกเซล 1.6μm พร้อมโหมด AI beautify และแบตเตอรี่ 4,030mAh รองรับชาร์จเร็ว 18 วัตต์

ราคาประมาณ 8,690 บาท

อัปเดตมือถือเปิดตัวใหม่ เดือนมิถุนายน 2019 เช็กเลย รุ่นไหนน่าซื้อ

หมายเหตุ: ราคามือถืออาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับร้านที่วางจำหน่าย อย่าลืมสอบถามราคาล่าสุดก่อนซื้อทุกครั้ง และมือถือบางรุ่นยังไม่ได้วางจำหน่ายในประเทศไทย

สนใจให้ Kapook.com รีวิวสินค้ามีสเปก จัดทำวิดีโอโปรโมต หรือ Content และ Social Marketing คลิกดูรายละเอียดกันเลย