แนะนำ 7 เคล็ดลับชาร์จแบตเตอรี่ iPhone ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ พร้อมทริกการชาร์จแบตเตอรี่ iPhone ให้เร็วด้วยวิธีการง่าย ๆ ที่ทำได้ด้วยตัวเอง
.jpg)
ถึงแม้ iPhone รุ่นใหม่ จะรองรับชาร์จเร็วตั้งแต่ iPhone 8 หรือ iPhone X ขึ้นไป โดยสามารถชาร์จได้ถึง 50% ภายในเวลา 30 นาที แต่อุปกรณ์ชาร์จเร็วไม่ได้แถมมาให้ในกล่อง หากต้องการใช้ฟีเจอร์ชาร์จเร็วนั้น จะต้องเสียเงินซื้ออะแดปเตอร์จ่ายไฟแบบ USB-C ขนาด 18 วัตต์, 29 วัตต์, 30 วัตต์, 61 วัตต์ หรือ 87 วัตต์ และสายชาร์จที่เป็น USB-C แยกต่างหาก โดยตัวอะแดปเตอร์นั้นมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 1,190 บาท (18 วัตต์) ส่วนสาย USB-C to Lightning ราคา 690 บาท ซึ่งก็หมายความว่าจะต้องเสียเงินเพิ่มอย่างต่ำ 1,880 บาท เพื่อการใช้ฟีเจอร์ชาร์จเร็ว
แต่สำหรับใครที่ไม่ต้องการเสียเงิน วันนี้เรามี 7 เคล็ดลับช่วยชาร์จแบตเตอรี่ iPhone ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ด้วยวิธีการง่าย ๆ ที่คุณสามารถทำได้ด้วยตัวเอง มาติดตามกันเลย
1. ไม่ต้องรอให้แบตเตอรี่เต็ม 100%
.jpg)
แบตเตอรี่ของ iPhone เป็นแบบลิเธียมไอออน (Lithium-ion) ที่มีน้ำหนักเบา ให้ประสิทธิภาพสูงและที่สำคัญคือสามารถชาร์จตอนไหนก็ได้ ชาร์จได้บ่อยครั้งโดยไม่จำเป็นต้องใช้งานให้หมดแล้วค่อยชาร์จทิ้งไว้นาน ๆ แบบแบตเตอรี่สมัยก่อน สำหรับการชาร์จแบตเตอรี่นั้นในช่วง 2 ชั่วโมงแรกจะชาร์จเต็มที่ขึ้นจนมาถึง 80% จากนั้นจะทำการค่อย ๆ ลดความแรงในการชาร์จลงในช่วง 20% สุดท้ายเพื่อถนอมแบตเตอรี่ และนี่คือสาเหตุที่ทำให้รู้สึกว่าเครื่องร้อนหลังจากเสียบชาร์จช่วงแรก ๆ แต่เครื่องจะเย็นลงช่วงหลังแบตฯ มีปริมาณ 80% ไปแล้ว เพราะฉะนั้นไม่ต้องรอให้แบตเตอรี่เต็ม 100% เมื่อแบตเตอรี่ชาร์จถึง 80% ก็สามารถถอดปลั๊กออกใช้งานได้ทันที
2. ชาร์จจากแบตเตอรี่พกพา
.jpg)
อีกหนึ่งทางเลือกสำหรับการชาร์จ iPhone ให้เร็วขึ้น ก็คือการใช้แบตเตอรี่สำรอง หรือพาวเวอร์แบงก์ ช่วยในการชาร์จ เพราะในปัจจุบันมีพาวเวอร์แบงก์หลายยี่ห้อที่รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว (Quick Charge) ทำให้ชาร์จแบตเตอรี่ได้เร็วกว่าที่ชาร์จธรรมดา
3. หยุดเล่น iPhone ขณะชาร์จแบตเตอรี่
.jpg)
ขณะชาร์จแบตเตอรี่ควรหยุดเช็กข้อความจาก LINE หรือแอปฯ แชตต่าง ๆ รวมถึงอีเมลสักครู่ หากทำสิ่งเหล่านี้ไปด้วยก็จะทำให้การชาร์จแบตเตอรี่ช้าลงกว่าเดิม เพราะเครื่องจะต้องใช้พลังงานเพื่อเพิ่มความสว่างของหน้าจอ และแสดงข้อความ การแจ้งเตือนต่าง ๆ รวมถึงแอปฯ จะทำการซิงก์ข้อมูลใหม่เมื่อปลดล็อกเครื่อง เพราะฉะนั้นควรหยุดเล่น iPhone ขณะชาร์จแบตเตอรี่อยู่จะดีกว่า
4. ชาร์จไฟจากเต้ารับ อย่าชาร์จไฟจากโน้ตบุ๊ก
.jpg)
หากเป็นไปได้ควรเสียบชาร์จ iPhone จากอะแดปเตอร์ผ่านเต้ารับไฟโดยตรง ถึงแม้การชาร์จผ่าน MacBook หรือคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปจะไม่ได้ส่งผลเสียกับ iPhone แต่มันก็ส่งผลให้การชาร์จแบตเตอรี่ช้ากว่าเดิมด้วยกำลังไฟ แต่สำหรับใครที่ใช้ iPhone รุ่นใหม่ ก็สามารถชาร์จผ่าน MacBook ที่เชื่อมต่อผ่านพอร์ต USB-C หรือ Thunderbolt ก็จะทำให้การชาร์จเร็วขึ้น เพราะสามารถจ่ายกระแสไฟได้มากกว่า
5. ควรถอดเคสออกขณะชาร์จแบตเตอรี่
ขณะที่ iPhone กำลังชาร์จแบตเตอรี่จะส่งผลให้อุณหภูมิของตัวเครื่องสูงขึ้น หากคุณใส่เคสที่มีความหนา การถอดเคสออกระหว่างชาร์จแบตเตอรี่จะช่วยลดอุณหภูมิให้เย็นลงได้ รวมถึงไม่ควรนำ iPhone ไปชาร์จในที่อุณหภูมิสูงมาก ๆ เช่น วางไว้ตากแดดหรือไว้ในรถที่จอดกลางแจ้ง ก็อาจทำให้ตัวเครื่อง iPhone เกิดความเสียหายได้ นอกจากนี้อุณหภูมิที่ต่ำมาก ๆ ก็ส่งผลเสียต่อ iPhone ด้วยเช่นกัน
6. ปิดและออกจากแอปฯ ทั้งหมด
ควรปิดหรือออกจากแอปฯ ทั้งหมด ก่อนทำการชาร์จ iPhone เพราะอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เครื่องชาร์จไฟช้า เพราะตัวอุปกรณ์ยังมีการเรียกใช้งานหรืออัปเดตข้อมูลอยู่เบื้องหลังนั่นเอง
7. เปิดโหมดเครื่องบิน (Airplane Mode)
เคล็ดลับสุดท้าย เรียกได้ว่าเป็นเคล็ดลับยอดนิยมที่ทำกัน ด้วยการเปิดโหมดเครื่องบิน (Airplane) ขณะชาร์จ iPhone เพื่อลดหรือตัดการใช้พลังงานจากเครื่องในระหว่างการชาร์จแบตเตอรี่ซึ่งจะช่วยทำให้ชาร์จได้เร็วขึ้นกว่าเดิม เพราะโหมดดังกล่าวจะส่งผลให้ระบบเครือข่ายมือถือต่าง ๆ ไม่สามารถใช้งานได้ชั่วคราว เช่น 3G/4G, Wi-Fi และ Bluetooth เป็นต้น
และทั้งหมดคือเคล็ดลับเล็ก ๆ น้อย ๆ สำหรับการชาร์จแบตเตอรี่ของ iPhone ที่จะช่วยทำให้ชาร์จได้เร็วขึ้นและประหยัดเวลากว่าเดิม สำหรับใครที่ใช้ iPhone ไม่อยากเสียเงินซื้ออุปกรณ์เสริมราคาแพง ๆ ก็ลองเอาเคล็ดลับทั้งหมดไปทดลองใช้กันได้
7 สิ่งที่ทำร้าย iPhone ของคุณ อย่าทำถ้าไม่อยากให้พังเร็ว
ข้อมูลจาก iDropNews
ภาพจาก Apple, Pexels, Anker
