แอปเปิลเผยข้อเสียของการเจลเบรก (Jailbreak) ดัดแปลง iOS โดยไม่ได้รับอนุญาตอาจทำให้เกิดปัญหาช่องโหว่ด้านความปลอดภัย ความไม่เสถียร อายุการใช้งานแบตเตอรี่สั้นลง
ถึงแม้ปัจจุบัน iOS จะถูกพัฒนาไปไกล มีฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่ทำให้ผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องเจลเบรกเหมือนเมื่อก่อนแล้ว และ Jay Freeman ผู้ก่อตั้ง Cydia ซึ่งเป็นเสมือน App Store สำหรับ iPhone ที่ผ่านการ Jailbreak แล้ว ได้ออกมาเปิดเผยว่า ปัจจุบันการ Jailbreak ได้ตายไปแล้ว พร้อมกับเผยเหตุผลที่ไม่ควรเจลเบรก (อ่านข่าวเก่า) แต่ก็ยังมีผู้ใช้งานอีกจำนวนหนึ่งที่ยังชื่นชอบการเจลเบรกอุปกรณ์ iOS ของตัวเองด้วยเหตุผลหลาย ๆ อย่าง
แต่รู้หรือไม่ การเจลเบรกนั้นถือว่าเป็นการใช้งานที่ขัดต่อเงื่อนไขและข้อตกลงของแอปเปิล การดัดแปลง iOS โดยไม่ได้รับอนุญาต หรือที่เรียกว่า "Jailbreaking" อาจทำให้เกิดปัญหาช่องโหว่ด้านความปลอดภัย ความไม่เสถียร อายุการใช้งานของแบตเตอรี่สั้นลง และอาจทำให้เกิดปัญหากับ iPhone, iPad หรือ iPod touch ถูกแฮกข้อมูลได้ โดยแอปเปิลได้ระบุข้อมูลเหล่านี้ไว้ที่ Apple Support มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
ช่องโหว่ด้านความปลอดภัย
การเจลเบรกอุปกรณ์จะเป็นการลดระดับการรักษาความปลอดภัยที่ออกแบบมาให้ปกป้องข้อมูลส่วนตัวและอุปกรณ์ iOS ของคุณ หากอุปกรณ์ iOS ไม่มีการรักษาความปลอดภัยก็จะทำให้เหล่าแฮกเกอร์อาจขโมยข้อมูลส่วนตัวของคุณ สร้างความเสียหายให้อุปกรณ์ บุกรุกเครือข่ายของคุณ หรือส่งมัลแวร์ สปายแวร์ หรือไวรัส มาสร้างความเสียหายได้
ความไม่เสถียร
อีกปัญหาจากการเจลเบรก ก็คือ เรื่องความไม่เสถียร อุปกรณ์มักจะล่มบ่อยโดยไม่คาดคิด แอปฯ ที่มาพร้อมเครื่องและแอปฯ อื่น ๆ ที่ติดตั้งเพิ่มเติมอาจใช้งานไม่ได้ รวมถึงข้อมูลอาจสูญหายได้
อายุการใช้งานของแบตเตอรี่สั้นลง
ซอฟต์แวร์ที่ถูกแฮกข้อมูลจะทำให้เปลืองแบตเตอรี่เร็วขึ้น ซึ่งทำให้การทำงานของ iPhone, iPad หรือ iPod touch จากการชาร์จแบตเตอรี่ต่อครั้งสั้นลง และต้องคอยชาร์จบ่อยขึ้น
การส่งสัญญาณเสียงและข้อมูล
เครื่องที่เจลเบรกแล้วอาจส่งผลให้เกิดการขัดข้องในการส่งสัญญาณเสียงหรือข้อมูลได้ เช่น กำลังสนทนาอยู่แล้วสายหลุด, เสียงขาดหาย ๆ, อินเทอร์เน็ตวิ่งช้ากว่าปกติ หรืออาจหลุดบ่อย ไม่เสถียร รวมถึงข้อมูลตำแหน่งที่ตั้งล่าช้าหรือไม่แม่นยำ ซึ่งนอกจากจะทำให้เสียเวลาแล้วยังสร้างความรำคาญให้กับผู้ใช้ไม่น้อยเลยทีเดียว
บริการใช้งานไม่เต็มประสิทธิภาพ
บริการต่าง ๆ ของแอปเปิลอาจถูกลดประสิทธิภาพ เช่น iCloud, iMessage, FaceTime, Apple Pay, Visual Voicemail, สภาพอากาศ และหุ้นอาจชะงักหรือไม่ทำงานบนอุปกรณ์นั้นอีกต่อไป รวมถึงแอปฯ อื่น ๆ ที่ใช้บริการแจ้งเตือนแบบพุชของแอปเปิลอาจมีปัญหาในการรับการแจ้งเตือน หรือได้รับการแจ้งเตือนที่มีเจตนาจะส่งให้กับอุปกรณ์เครื่องอื่นที่ถูกแฮกข้อมูล บริการแบบพุชอื่น ๆ เช่น iCloud และ Exchange มีปัญหาในการซิงก์ข้อมูลกับเซิร์ฟเวอร์
ไม่สามารถอัปเดตซอฟต์แวร์ได้ในอนาคต
และแน่นอนสำหรับอุปกรณ์ที่เจลเบรกจะไม่สามารถอัปเดตซอฟต์แวร์เวอร์ชั่นใหม่จากแอปเปิลได้ โดยวิธีเดียวที่จะสามารถทำให้อัปเดตได้ก็คือยกเลิกการเจลเบรกเท่านั้น หรือรอให้เจลเบรกออกเวอร์ชั่นใหม่ตามมาก่อน ซึ่งก็ใช้เวลาค่อนข้างนานเลยทีเดียว ไม่งั้นก็คงยอมใช้เวอร์ชั่นเก่าต่อไปเรื่อย ๆ นั่นเอง
ทั้งนี้ แอปเปิลได้เตือนไม่ให้มีการติดตั้งซอฟต์แวร์ใด ๆ ที่แฮกข้อมูล iOS เด็ดขาด และการดัดแปลง iOS โดยไม่ได้รับอนุญาตถือเป็นการฝ่าฝืนข้อตกลงสิทธิ์การใช้ซอฟต์แวร์ของผู้ใช้ iOS และด้วยเหตุนี้ แอปเปิลอาจปฏิเสธการให้บริการสำหรับ iPhone, iPad หรือ iPod touch ที่ได้ติดตั้งซอฟต์แวร์ที่ไม่ได้รับอนุญาตทุกชนิด
ภาพจาก Pexels
