รีวิวเจาะลึกกล้อง Huawei nova 2i สมาร์ทโฟน 4 กล้อง หน้า 2 หลัง 2 ลูกเล่นแพรวพราว ถ่ายสวยได้ทุกสถานการณ์
เรียกเสียงฮือฮาได้ดีทีเดียวกับ Huawei nova 2i สมาร์ทโฟนน้องใหม่จาก Huawei ที่ชูจุดเด่นเรื่องกล้องคู่ ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง ถือเป็นสมาร์ทโฟน 4 กล้องตัวแรกจากแบรนด์ Huawei เลย โดยวันนี้เราจะพาไปเจาะลึกฟังก์ชั่นกล้องถ่ายภาพของ Huawei nova 2i กันว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง และฟีเจอร์ต่าง ๆ เหล่านี้ จะนำมาช่วยในการถ่ายภาพของเราให้สวยขึ้นสมคำร่ำลือสมาร์ทโฟน 4 กล้องหรือเปล่า ตามไปดูกันเลย
Huawei nova 2i เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่มีกล้องถึง 4 ตัวด้วยกัน โดยแบ่งเป็นกล้องหน้า 2 ตัว และ กล้องหลังอีก 2 ตัว ซึ่งที่กล้องหน้าจะมีความละเอียด 13 ล้านพิกเซลและ 2 ล้านพิกเซล มีค่ารูรับแสง f/2.0 โดยที่กล้องตัวแรกจะเน้นเก็บความละเอียดสีที่ 1.75um และกล้องตัวที่ 2 จะเน้นเก็บความชัดลึกและเบลอพื้นหลัง ในส่วนของกล้องหลังมีความละเอียด 16 ล้านพิกเซลกับอีก 2 ล้านพิกเซล
ทั้งนี้ Huawei nova 2i มาพร้อมกับโหมดการถ่ายภาพมากมาย เช่น Beauty 4.0 แต่งผิวสวยหน้าใส, Fun Effect แต่งหน้าสนุก ๆ ได้มากถึง 18 แบบ, Moving Picture โหมดถ่ายภาพเคลื่อนไหว 2 วินาที และ Filter สำหรับแต่งภาพ
เราจะเริ่มกันที่การถ่ายภาพด้วยกล้องหน้ากันก่อน โดยรวมถือว่าใช้งานได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว แต่จะมีจุดสังเกตที่ดูแตกต่างออกไปจากกล้องหลัง โดยโหมดแรกที่เราจะลองใช้งานเลยคือ Wide Aperture หรือการปรับชัดลึก ชัดตื้น รวมไปถึงการเลือกจุดโฟกัสหลังถ่ายภาพ ซึ่งในการใช้งานกล้องหน้านี้จะไม่มีสัญลักษณ์ของโหมด Wide Aperture ด้านบน แต่หลังจากที่ถ่ายไปแล้ว เราจะสามารถเข้าไปเลือกจุดโฟกัสได้ แต่ก็ยังมีเงื่อนไขอยู่ว่า จะปรับชัดลึก ชัดตื้นได้ก็ต่อเมื่อไม่ได้เปิดโหมด Moving Picture เอาไว้
ต่อไปคือโหมด Moving Picture เป็นการเปิด-ปิดการบันทึกภาพเคลื่อนไหวล่วงหน้า 2 วินาที ก่อนกด Shutter ซึ่งจะไม่สามารถใช้งานร่วมกับ Aperture ในการปรับชัดตื้น-ชัดลึกได้ เวลาจะดูภาพให้เราแตะที่ภาพที่ถ่ายด้วย Moving Picture ค้างไว้ แล้วภาพนั้นก็จะเริ่มขยับ
ต่อมาที่ด้านขวาล่างเราจะเห็นสัญลักษณ์ Beauty หรือโหมด Beauty 4.0 ซึ่งจะเป็นการปรับระดับความเนียนใสของใบหน้า สามารถใช้ได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง นอกจากนี้ยังมีสัญลักษณ์ Bokeh สำหรับปรับแต่งขอบภาพให้เบลอ เพื่อให้ภาพดูเด่นออกมาจากฉากหลังอีกด้วย
อีกหนึ่งฟีเจอร์สนุก ๆ ของ Huawei ก็คือ Fun Effect โดยการใช้นิ้วปาดไปทางขวา เลือกโหมด Effect ก็จะมี Sticker น่ารัก ๆ ตามจับใบหน้าเราขณะถ่ายภาพ พร้อมทั้งมี Filter หลากหลายสไตล์ให้เลือกใช้แต่งภาพ
นอกจากนี้เรายังปรับแต่งการทำงานต่าง ๆ ของกล้องได้จากเมนูเพิ่มเติมด้วยการปาดนิ้วไปทางซ้าย เช่น ปรับความละเอียดและอัตราส่วน GPS Tag เปิดสเกลวัดระดับน้ำ, เปิด Grid ช่วยจัดองค์ประกอบภาพ และอื่น ๆ อีกมากมาย
แล้วเราก็มาต่อกันที่การถ่ายภาพด้วยกล้องหลังกัน ในส่วนของกล้องหลังถ้าใช้นิ้วปาดไปทางขวาจะเจอโหมดถ่ายรูปต่าง ๆ มากมายให้เลือกใช้กันได้อย่างสนุกสนาน แต่เราจะขอเน้นไปที่ การถ่ายในโหมดธรรมดา, โหมด Pro, HDR, Night Shot, Light Painting และ Good Food
ในโหมด Photo ถือว่า Interface ใช้งานง่าย ไม่ยุ่งยาก สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มเรียนรู้การถ่ายภาพ การตั้งค่าทุกอย่างจะถูกตั้งค่าให้เป็น Auto ทั้งหมด หากสังเกตที่ด้านบน จะเจอแถบสำหรับปรับตั้งค่าต่าง ๆ ได้แก่ เปิด/ปิด Flash,Wide Aperture, Beauty, Moving Picture และสลับกล้องหน้า/หลัง
เราจะมาดูจุดเด่นของ Huawei nova 2i ก็คือ การถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอนั่นเอง โดยการกดที่สัญลักษณ์ Wide aperture สัญลักษณ์จะขึ้น Hilight สีฟ้าพร้อมใช้งาน โดยในขณะถ่ายเราสามารถเลือกปรับค่ารูรับแสงได้ตั้งแต่ค่า f0.95 จนถึง f16 ซึ่งตัวเลขที่น้อยจะทำให้ฉากหลังเบลอมาก ในขณะที่ตัวเลขมากจะทำให้ฉากหลังชัด หรือเราจะปรับหลังจากที่ถ่ายเสร็จแล้วก็ได้เช่นกัน รวมถึงการเลือกจุดโฟกัสใหม่ในภาพได้ด้วย Refocusing แต่เนื่องจากกล้องสมาร์ทโฟน ไม่ได้มีกลไกม่านรูรับแสงจริง ๆ แบบกล้องถ่ายภาพปกติ เพราะฉะนั้น โบเก้ของภาพที่ได้ จึงเป็นการทำงานของซอฟต์แวร์ แต่ก็ถือว่าเนียนตาเลยทีเดียวสำหรับ Huawei Nova 2i
สำหรับข้อควรพิจารณาก็คือ การปรับ Wide Aperture ไม่สามารถใช้ร่วมกับการบันทึกภาพแบบ Moving Picture ได้ และทันทีที่เลือก Wide aperture สัญลักษณ์ Flash จะทึบกลายเป็นสีเทาทันที ก็คือใช้ Flash ไม่ได้ขณะที่ใช้โหมด Wide Aperture นั่นเอง
ส่วนโหมด Pro Photo จะมีสิ่งที่เพิ่มเข้ามาคือแถบควบคุมกล้อง ซึ่งค่าที่เราสามารถปรับแต่งได้ มีดังนี้
- โหมดวัดแสง มีให้เลือก 3 แบบ คือ วัดแสงเฉลี่ยทั้งภาพ, วัดแสงเฉลี่ยกลางภาพ และวัดแสงเฉพาะจุด
- ISO หรือค่าความไวแสงสามารถเลือกเป็น Auto และตั้งแต่ ISO 50 จนถึง 3200 แต่ถ้าเลือก ISO สูงจะได้ภาพที่มี Noise เยอะขึ้น
- Speed Shutter สามารถตั้งค่าเป็น Auto หรือเลือกปรับได้ตั้งแต่ 8 วินาที จนถึง1/4000 วินาที
- ตั้งค่าชดเชยแสงอัตโนมัติ ปรับได้ตั้งแต่ -4.0 Stop จนถึง +4.0 Stop
- โหมด Focus เลือกปรับได้ 3 แบบ คือ AF-S, AF-C, MF
- White Balance มี Preset ให้เลือก 5 แบบ คือ AWB (Auto), Cloudy Fluorescent, Tungsten, Daylight และแบบเลือกปรับเองตามอุณหภูมิแสงเคลวิน ตั้งแต่ 2800k-7000k
ต่อมาเป็นโหมด Video & Pro Video โดยในการถ่าย Video ทุกอย่างจะถูกปรับให้เป็น Auto สะดวกต่อการใช้งาน แต่หากเลือกเป็น Pro Video ก็จะมีแถบควบคุมกล้องเพิ่มเข้ามาคล้าย ๆ Pro Photo แต่จะมี2 คำสั่งที่ถูกตัดออกไปก็คือ ISO และ SpeedShutter เพราะฉะนั้น โหมด Pro Video ค่า ISO และ SpeedShutter จะเป็น Auto
HDR (High Dynamic Range) เป็นโหมดที่ใช้ถ่ายภาพที่มีค่าความต่างของแสงที่มากกว่าปกติ เช่น มีทั้งส่วนที่สว่างมาก ๆ และมืดมาก ๆ ในภาพเดียวกัน ทันทีที่ปรับเข้าสู่โหมด HDR เราจะเห็นภาพจากหน้าจอสลับไปใช้เลนส์ Tele ทันที กล้องจะบันทึกภาพ 2 ภาพพร้อมกัน จากกล้องทั้ง 2 ตัว แต่ด้วยค่าแสงที่ต่างกัน และหลังจากนั้นซอฟต์แวร์จะช่วยประมวลผลทั้ง 2 ภาพเข้าด้วยกัน เพื่อดึงรายละเอียดของภาพในส่วนที่สว่างเกินไปหรือมืดเกินไปให้กลับคืนมา
Night Shot โหมดถ่ายภาพกลางคืน กล้องจะทำการถ่ายภาพคร่อมแสงประมาณ 7 ภาพ แล้วมา Blend เข้าด้วยกันเพื่อลด Noise แต่มีเงื่อนไขคือ ให้ถือกล้องนิ่ง ๆ ไม่งั้นภาพที่ออกมาจะเหมือนถ่ายด้วย Shutter B นอกจากนี้ Night Shot ยังสามารถเลือก ISO กับ Shutter Speed ได้ด้วย แต่การใช้งานจริง ตั้ง Auto ทั้งหมดจะง่ายที่สุด
ส่วน Light Painting เป็นโหมดที่ใช้ลูกเล่นจากแสงไฟ ซึ่งแบ่งเป็น 4 โหมดย่อยด้วยกันคือ Tail light trails ถ่ายแสงไฟจากท้ายรถ, Light grafiti ใช้ไฟฉายวาดแสง, Silky Water ใช้ถ่ายภาพน้ำตก และ Star track ใช้ถ่ายภาพดาว โดยข้อสำคัญในการใช้โหมดนี้ควรจะต้องมีที่ยึดโทรศัพท์ที่มั่นคง มิเช่นนั้นภาพที่ได้จะสั่น
โหมดสุดท้าย Good Food กล้องจะทำการปรับเป็นเลนส์ Tele แล้วแต่งค่าสี เพื่อให้ภาพอาหารมีสีสดขึ้น ทำให้อาหารดูน่าทาน เหมาะสำหรับคนที่ชอบโพสต์รูปอาหารยั่วน้ำลายคนอื่น
สรุปแล้วสำหรับฟังก์ชั่นกล้องของ Huawei nova 2i นี้ เรียกได้ว่าครบครันจริง ๆ รองรับการถ่ายภาพทุกประเภท ทั้งภาพ Portrait, Landscape ไปจนถึงการถ่ายภาพอาหาร และด้วยระบบกล้องคู่ที่มีมาให้ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ทำให้สามารถถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอได้ รวมไปถึงการเลือกจุดโฟกัสหลังถ่ายภาพ การได้คุณภาพของภาพขนาดนี้ ในราคาแค่ 9,900 บาท คงจะหาตัวเทียบด้วยยาก แม้จะเป็นกล้องคอมแพคท์เองก็ตาม หากใครสนใจ Huawei nova 2i สามารถไปทดลองจับได้ที่ร้านตัวแทนจำหน่าย และ Huawei Brand Shop ทั่วประเทศ