ภาพจาก Yeamake / Shutterstock.com
แนะนำ 7 วิธีเพิ่มความเร็วแอปฯ เบราว์เซอร์ Safari บน iPhone และ iPad ให้กลับมาใช้งานได้รวดเร็วอีกครั้ง
ก่อนหน้านี้ได้แนะนำวิธีใช้งานต่าง ๆ ให้กับผู้ใช้แอปฯ เบราว์เซอร์ Safari บน iPhone กันไปแล้ว วันนี้กระปุกดอทคอมมีอีกหนึ่งกระทู้จากเว็บไซต์ MobiPicker ที่น่าจะเป็นประโยชน์กับผู้ใช้เบราว์เซอร์ Safari บน iPhone และ iPad ที่กำลังประสบปัญหาแอปฯ เบราว์เซอร์ Safari ทำงานช้าลง ให้ได้ลองแก้ไขกันดู ส่วน 7 วิธีเพิ่มความเร็วแอปฯ เบราว์เซอร์ Safari ให้กลับมาใช้งานได้รวดเร็วอีกครั้ง จะมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง ถ้าพร้อมแล้ว มาดูกันเลย
1. ล้างประวัติและลบข้อมูลเว็บไซต์ต่าง ๆ ออกให้หมด
ในการท่องเว็บไซต์ต่าง ๆ แต่ละครั้ง เบราว์เซอร์จะทำการเก็บประวัติและข้อมูลเว็บไซต์ต่าง ๆ ไว้เสมอ และยิ่งใช้ไปนาน ๆ ก็ยิ่งสะสมมากขึ้น ส่งผลทำให้เบราว์เซอร์ที่คุณใช้งานทำงานได้ช้าลงกว่าเดิมนั่นเอง สำหรับการล้างประวัติและลบข้อมูลบนแอปฯ เบราว์เซอร์ Safari ทำได้ดังนี้ ไปที่ Settings > Safari > Clear History and Website Data และเลือก Clear History and Data
2. ปิดฟีเจอร์ Background App Refresh
เนื่องจากฟีเจอร์ Background App Refresh จะทำงานตลอดเวลาไปพร้อม ๆ กับที่คุณกำลังท่องเว็บไซต์ต่าง ๆ ด้วยเบราว์เซอร์ Safari อยู่นั่นเอง จึงทำให้เป็นสาเหตุหนึ่งที่ส่งผลให้แอปฯ เบราว์เซอร์ Safari ทำงานได้ช้าลง สามารถเข้าไปปิดฟีเจอร์ดังกล่าวได้ที่ Settings > General และเลือกปิด Background App Refresh
3. ปิดแท็บต่าง ๆ ที่ถูกเปิดค้างไว้ให้หมด
ในส่วนของการเปิดแท็บต่าง ๆ ค้างไว้จำนวนมาก ๆ แน่นอนว่านอกจากจะส่งผลทำให้แอปฯ เบราว์เซอร์ Safari ทำงานได้ช้าลงแล้ว ยังส่งผลให้แบตเตอรี่ iPhone ของคุณหมดเร็วไปด้วย โดยผู้ใช้งานสามารถทำปิดแท็บไซ์ได้ด้วยการกดไอคอน Tap ที่มุมขวาล่าง จากนั้นลากแท็บไปทางซ้ายมือ หรือกด X ตามภาพประกอบ
4. ล้าง Offline Reading List
Office Reading List เป็นฟีเจอร์สำหรับเก็บข้อมูลรายการต่าง ๆ บนเว็บไซต์ ที่เราสนใจไว้อ่านภายหลังแบบออฟไลน์ ซึ่งส่งผลทำให้ Safari ทำงานได้ช้าลง หากต้องการให้แอปฯ เบราว์เซอร์ Safari กลับมาทำงานได้รวดเร็วอีกครั้ง ให้เข้าไปลบรายการได้ที่ Settings > General > Storage & iCloud Usage > Manage Storage เลื่อนลงมาที่แอปฯ เบราว์เซอร์ Safari และเลือก Edit ที่มุมขวาบน จากนั้นทำการลบ Offline Reading List ด้วยการแตะที่ปุ่มวงกลมสีแดง
5. ปิด Location Services
สำหรับการเปิดใช้งาน Location Services เพื่อค้นหาสถานที่หรือพิกัดต่าง ๆ ที่คุณอยู่ปัจจุบัน ถือเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้คุณใช้งานแอปฯ เบราว์เซอร์ Safari ทำงานได้ช้าลงกว่าเดิม เนื่องจากฟีเจอร์ดังกล่าวจะทำงานตลอดเวลา ส่งผลให้ iPhone และ iPad ของคุณทำงานหนักขึ้นนั่นเอง โดยเข้าไปปิดได้ที่ Settings > Privacy และปิด Location Services
6. รีเซ็ตการตั้งค่าเครือข่ายใหม่
สำหรับการรีเซ็ตการตั้งค่าเครือข่ายใหม่ ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการแก้ปัญหาแอปฯ เบราว์เซอร์ Safari ทำงานได้ช้าลงกว่าปกติ เนื่องจากอินเทอร์เน็ต 3G/4G และ Wi-Fi หลุดบ่อย ไม่เสถียร อาจทำให้เปิดเว็บไซต์ต่าง ๆ ไม่ค่อยขึ้น โดยหากพบปัญหาดังกล่าว สามารถเข้าไปทำการรีเซ็ตการตั้งค่าเครือข่ายใหม่ได้ที่ Settings > General > Reset และเลือก Reset Network Settings
7. ปิด JavaScript ในแอปฯ เบราว์เซอร์ Safari
อีกหนึ่งทางแก้ปัญหาเบราว์เซอร์ Safari ทำงานได้ช้าลงวิธีสุดท้าย ก็คือการปิดการใช้งาน JavaScript ในแอปฯ เบราว์เซอร์ Safari โดยเข้าไปทำการปิดการใช้งานได้ที่ Settings > Safari > Advanced และปิด JavaScript
ภาพจาก mobipicker