x close

เคล็ดไม่ลับ 12 วิธีตั้งค่า iPhone บน iOS 11 ให้ใช้งานปลอดภัยยิ่งขึ้น

วิธีตั้งค่าความปลอดภัยให้ iPhone บน iOS 11

              แนะนำ 12 วิธีตั้งค่าความปลอดภัยให้ iPhone บน iOS 11 ใช้งานได้ปลอดภัยยิ่งขึ้น พร้อมภาพประกอบ ที่คุณไม่ควรพลาด

              อีกหนึ่งสิ่งที่ทาง Apple ให้ความสำคัญเป็นลำดับต้น ๆ กับผู้ใช้งานบนอุปกรณ์ iOS ตลอดมาก็คือเรื่องของความปลอดภัย โดยเฉพาะ iPhone เชื่อว่าหลายคนอาจจะไม่ทราบว่า iOS 11 นอกจากจะเพิ่มความสามารถใหม่ ๆ เข้ามาแล้ว ยังได้ปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยอีกด้วย วันนี้กระปุกดอทคอมมี 12 วิธีตั้งค่าความปลอดภัยให้กับผู้ใช้ iPhone บน iOS 11 อย่างง่าย ๆ จากเว็บไซต์ iDropNews มาแนะนำได้ลองติดตามทำกัน โดยมีขั้นตอนง่าย ๆ ดังนี้

1. ติดตั้งและเปิดใช้งานใช้ VPN ขณะเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi สาธารณะ

วิธีตั้งค่าความปลอดภัยให้ iPhone บน iOS 11

          สำหรับการติดตั้งและเปิดใช้งาน VPN ขณะเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่าน Wi-Fi สาธารณะ จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดี เนื่องจาก VPN จะถูกเข้ารหัสตรวจสอบระหว่างการใช้งานทุกครั้ง ส่งผลทำให้ผู้ไม่หวังดีหรือเหล่าแฮ็กเกอร์ที่จ้องจะขโมยข้อมูลไม่สามารถแฮ็กข้อมูลได้นั่นเอง

          - ดู 5 แอปฯ VPN น่าใช้ ปี 2017    

2. .ใช้แอปฯ บราวเซอร์ Safari

วิธีตั้งค่าความปลอดภัยให้ iPhone บน iOS 11

          เนื่องจากปัจจุบันแอปฯ บราวเซอร์ Safari ได้เพิ่มฟีเจอร์เกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของผู้ใช้งานบราวเซอร์เข้ามา และยังสามารถป้องกันการติดตามจากเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่จ้องจะเข้ามาแอบแฝงโฆษณาได้อีกด้วย โดยผู้ใช้งานสามารถเข้าไปตั้งค่าได้ที่ Settings (การตั้งค่า) > Safari และเลือกเปิดใช้งานฟีเจอร์ตามความเหมาะสมของผู้ใช้งาน เช่น เลือก Fraudulent Website Warning (คำเตือนเว็บไซต์หลอกลวง)

3. ปิดการเข้าถึงตำแหน่งแอปฯ ตลอดเวลา

วิธีตั้งค่าความปลอดภัยให้ iPhone บน iOS 11

          ให้ทำการปิดการเข้าถึงตำแหน่งของแอปฯ ตลอดเวลาลง เนื่องจากแอปฯ บางตัวจะถูกตั้งค่าให้เปิดการเข้าถึงตำแหน่งที่ตั้งตลอดเวลาไว้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว โดยผู้ใช้งานสามารถเข้าไปทำการตั้งค่าปิดการเข้าถึงตำแหน่งตลอดเวลาได้ที่ Settings (การตั้งค่า) เลือกแอปฯ ที่ต้องการตั้งค่า > Location (ตำแหน่งที่ตั้ง) และเลือก While Using the App (ในระหว่างใช้แอปฯ) หรือเปิดใช้งานตำแหน่งที่ตั้งเฉพาะเวลาที่เรียกเปิดแอปฯ เท่านั้น

4. ซ่อนข้อความแจ้งเตือนบนหน้าจอ Lock Screen

วิธีตั้งค่าความปลอดภัยให้ iPhone บน iOS 11

          สำหรับปิดการแจ้งเตือน Show Previews หรือแสดงข้อความต่าง ๆ ขณะอยู่บนหน้าจอ Lock Screen จะช่วยปกป้องข้อความส่วนตัวไม่ให้คนอื่นเห็นขณะที่ไม่อยู่กับเครื่อง โดยผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปตั้งค่าดังกล่าวได้ที่ Settings (การตั้งค่า) > Notifications (การแจ้งเตือน) > Show Previews (แสดงตัวอย่าง) > Never (ไม่เลย) สำหรับปิดไม่ให้ข้อความขึ้นแจ้งเตือน หรือ When Unlocked (เมื่อไม่ได้ล็อก) สำหรับปิดไม่ให้ข้อความขึ้นแจ้งเตือนขณะอยู่ในหน้าจอ Lock Screen

5. ตั้งเวลาล็อกหน้าจอให้เร็วที่สุด

วิธีตั้งค่าความปลอดภัยให้ iPhone บน iOS 11

          สำหรับการตั้งเวลาล็อกหน้าจอขณะไม่ใช้งาน ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญในการป้องกันความปลอดภัยของผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดี เนื่องจากหากผู้ใช้งานตั้งเวลาล็อกหน้าจอเป็นเวลานาน ๆ อาจจะมีความเสี่ยงทำให้ผู้อื่นสามารถแอบเข้ามาใช้งานเครื่องเราได้ หากลืมวางมือถือไว้ที่ใดที่หนึ่ง โดยแนะนำให้ทำการเลือกเวลาล็อกหน้าจอที่ 30 วินาที สามารถเข้าไปทำการตั้งค่าล็อกหน้าจอได้ที่ Settings (การตั้งค่า) > Display & Brightness (จอภาพและความสว่าง) > Auto-Lock (ตั้งล็อกโดยอัตโนมัติ) และเลือก 30 Seconds (30 วินาที)

6. เปิดใช้งาน Find my iPhone

วิธีตั้งค่าความปลอดภัยให้ iPhone บน iOS 11

          สำหรับฟีเจอร์ Find my iPhone ถือเป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยที่สำคัญที่สุดสำหรับผู้ใช้ iPhone เลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะเวลาที่เกิดเหตุไม่คาดฝัน ฟีเจอร์ดังกล่าวจะสามารถติดตามมือถือที่สูญหายหรือโดนขโมยได้ทันท่วงที รวมถึงยังสามารถสั่งล็อกเครื่องเพื่อป้องกันข้อมูลส่วนตัวต่าง ๆ ได้อีกด้วย สามารถเปิดใช้งานได้ที่ Settings (การตั้งค่า) > ชื่อบัญชี Apple ID ของคุณ > ชื่ออุปกรณ์ iPhone ของคุณ > Find My iPhone (ค้นหา iPhone ของคุณ) และเลือกเปิดใช้งาน Find My iPhone (ค้นหา iPhone ของคุณ)

7. เปิดใช้ Two-Factor Authentication

วิธีตั้งค่าความปลอดภัยให้ iPhone บน iOS 11

          สำหรับฟีเจอร์ Two-Factor Authentication เป็นการตรวจสอบสิทธิ์สองปัจจัย นอกเหนือจากการยืนยันตัวตนผ่าน Username และ Password แล้ว เพื่อป้องกันการโดนแฮ็กข้อมูลของ Apple ID จากผู้ไม่หวังดี โดยเฉพาะคนที่ผูกบัตรเครดิตต่าง ๆ กับ Apple ID ไม่ควรพลาด โดยฟีเจอร์ดังกล่าวจะทำการส่งรหัส 6 หลัก ให้กับผู้ใช้งานนำไปกรอกผ่านอุปกรณ์อื่น ๆ ที่รองรับภายในเวลาที่กำหนด เพื่อยืนยันตัวตนอีกครั้ง สามารถเข้าไปทำการตั้งค่าได้ที่ Settings (การตั้งค่า) > ชื่อบัญชี Apple ID ของคุณ > Passcode & Security (รหัสผ่านและความปลอดภัย) และเลือกเปิด Two-Factor Authentication (การตรวจสอบสิทธิ์สองปัจจัย)

8. ปิดการตอบกลับข้อความต่าง ๆ ผ่านหน้าจอ Lock Screen

วิธีตั้งค่าความปลอดภัยให้ iPhone บน iOS 11

          เพื่อป้องกันการถูกแอบอ้างหรือสวมรอยขณะที่ผู้ใช้งานเผลอหรือวางมือถือไว้ที่ใดที่หนึ่งแล้วเกิดมีข้อความแจ้งเตือนเด้งขึ้นมาบนหน้าจอ Lock Screen ให้ทำการปิดการใช้งานในส่วนนี้ลง โดยเข้าไปตั้งค่าได้ที่ Settings (การตั้งค่า) > Touch ID & Passcode (Touch ID และรหัส) และใส่รหัสผ่าน > จากนั้นเลื่อนลงมา Allow Access When Locked (อนุญาตให้เข้าถึงขณะล็อกอยู่) และเลือกปิดแอปฯ ที่ไม่ต้องการให้ตอบกลับข้อความต่าง ๆ ผ่านหน้าจอ Lock Screen ได้

9. ปิด Touch ID และใช้รหัสผ่านแทน  

วิธีตั้งค่าความปลอดภัยให้ iPhone บน iOS 11

          การปลดล็อกเครื่องด้วย Touch ID ถือเป็นสิ่งที่ช่วยอำนวยความสะดวกผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดี แต่สำหรับผู้ที่ออกเดินทางต่างประเทศบ่อย ๆ ควรปิดใช้งานในส่วนนี้ลง เนื่องจากมีบางประเทศออกกฎหมายอนุญาตให้เจ้าหน้าที่บังคับให้ปลดล็อกเครื่องของคุณได้ด้วย Touch ID ซึ่งอาจส่งผลให้เครื่องของคุณไม่ปลอดภัยจากบุคคลแปลกหน้าได้ โดยหากผู้ใช้งานคนใดที่ต้องไปยังประเทศที่ออกกฎหมายดังกล่าว ให้ทำการปิดการใช้งานในส่วนนี้ลง โดยเข้าไปที่ Settings (การตั้งค่า) > Touch ID & Passcode (Touch ID และรหัส) > ใส่รหัสผ่าน และทำการปิด iPhone Unlock (ปลดล็อก iPhone)

10. ปิด Touch ID ชั่วคราว ด้วยการเปิด Emergency SOS

วิธีตั้งค่าความปลอดภัยให้ iPhone บน iOS 11

          สำหรับฟีเจอร์ Emergency SOS ถือเป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ใหม่ด้านความปลอดภัยที่เพิ่มเข้ามาใน iOS 11 เพื่อไว้สำหรับติดต่อขอความช่วยเหลือกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน โดยจะใช้งานได้ก็ต่อเมื่อผู้ใช้งานกดปุ่ม Power ต่อเนื่องกัน 5 ครั้ง จากนั้นหน้าจอจะแสดงปุ่มต่าง ๆ 3 ปุ่ม ได้แก่ ปุ่ม slide to power off สำหรับปิดเครื่อง, ปุ่ม Medical ID สำหรับการช่วยชีวิตในเหตุการณ์ฉุกเฉินได้ และปุ่ม Emergency SOS สำหรับขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน โดยมีปุ่ม Cancel อยู่ล่างสุด สามารถเข้าไปตั้งค่าได้ที่ Settings (การตั้งค่า) > Emergency SOS (SOS ฉุเฉิน) และปิด Auto Call (โทรอัตโนมัติ) เพียงเท่านี้คุณก็สามารถเข้าใช้งาน SOS Emergency ด้วยการกดปุ่ม Power 5 ครั้งต่อเนื่องได้แล้ว

          ทั้งนี้หากเปิดใช้งาน Emergency SOS แล้ว ผู้ใช้งานจะไม่สามารถสแกนลายนิ้วมือเพื่อปลดล็อกเครื่องได้ เนื่องจากฟีเจอร์ดังกล่าวจะบังคับให้ผู้ใช้งานปลดล็อกเครื่องผ่านการใส่รหัสแทน เพื่อป้องกันเหตุฉุกเฉินต่าง ๆ เช่น สลบไม่ได้สติแล้วถูกผู้ไม่หวังดีนำนิ้วมือของคุณมาสแกนเพื่อปลดล็อกเครื่อง

11. เปิดใช้งานฟีเจอร์ Erase Data สำหรับลบข้อมูลอัตโนมัติ

วิธีตั้งค่าความปลอดภัยให้ iPhone บน iOS 11

          น่าจะเป็นฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยที่สำคัญลำดับต้น ๆ ของผู้ใช้ iPhone เลยก็ว่าได้ เนื่องจากฟีเจอร์ Erase Data จะทำการลบข้อมูลในเครื่องทันที เมื่อมีการเข้ารหัสผ่านผิดติดต่อกัน 10 ครั้ง เพื่อป้องกันล้วงลับข้อมูลส่วนตัว กรณีเครื่องของคุณสูญหายหรือถูกขโมย โดยสามารถเข้าไปตั้งค่าได้ที่ Settings (การตั้งค่า) > Touch ID & Passcode (Touch ID และรหัส) > ใส่รหัสผ่าน จากนั้นเลื่อนลงมาด้านล่างเพื่อเปิดใช้งาน Erase Data (ลบข้อมูล)

12. ตั้งรหัสผ่านใหม่ให้ยาวขึ้น

วิธีตั้งค่าความปลอดภัยให้ iPhone บน iOS 11

          วิธีตั้งค่าป้องกันความปลอดภัยให้กับ iPhone บน iOS 11 วิธีสุดท้าย เป็นการแนะนำให้ผู้ใช้งานทำการตั้งรหัสผ่านด้วยตัวเลขให้มากกว่า 4 ตัว หรือตั้งรหัสผ่านให้มีทั้งตัวเลขและตัวอักษร เพื่อยากต่อการคาดเดา โดยผู้ใช้งานสามารถเข้าไปตั้งค่ารหัสต่าง ๆ ให้ยาวขึ้นได้ที่ Settings (การตั้งค่า) > Touch ID & Passcode (Touch ID และรหัส) > ใส่รหัสผ่าน และเลือก Change Passcode (เปลี่ยนรหัส)

ภาพจาก idropnews

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เคล็ดไม่ลับ 12 วิธีตั้งค่า iPhone บน iOS 11 ให้ใช้งานปลอดภัยยิ่งขึ้น อัปเดตล่าสุด 19 ตุลาคม 2560 เวลา 11:25:41 12,453 อ่าน
TOP