แนะนำ 15 วิธีประหยัดแบตเตอรี่ Samsung Galaxy S8 และ Galaxy S8+ ให้ใช้งานได้ยาวนานกว่าเดิม
หลังจาก Samsung ได้เปิดตัว Samsung Galaxy S8 และ Samsung Galaxy S8+ ไปเมื่อช่วงปลายเดือนมีนาคม 2560 และจะเริ่มจำหน่ายอย่างเป็นทางการพร้อมกันทั่วประเทศไทยในวันที่ 5 พฤษภาคม 2560 ซึ่งใครที่กำลังมีแพลนจะซื้อมือถือรุ่นดังกล่าว ไม่ควรพลาด กระทู้ที่กระปุกดอทคอมจะแนะนำต่อไปนี้ กับวิธีที่จะช่วยให้คุณประหยัดแบตเตอรี่ Samsung Galaxy S8 และ Galaxy S8+ ให้ใช้งานได้ยาวนานขึ้น ด้วย 15 ขั้นตอนง่าย ๆ ที่แนะนำโดยเว็บไซต์ PhoneArena
1. เลือกใช้ภาพพื้นหลัง (Wallpaper) โทนสีเข้ม ๆ หรือธีมสีดำ
การเลือกใช้ภาพพื้นหลังโทนสีเข้ม ๆ หรือธีมสีดำกับมือถือของ Samsung ถือเป็นวิธีประหยัดพลังงานแบตเตอรี่ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดเลยก็ว่าได้ เนื่องจากหน้าจอหลาย ๆ รุ่นของ Samsung เป็นจอ Super AMOLED ซึ่งใช้พลังงานแบตเตอรี่ในการแสดงผลสีขาวมากกว่าสีดำนั่นเอง
สำหรับวิธีเปลี่ยนภาพพื้นหลัง ไปที่การตั้งค่า (Settings) และเลือกพื้นหลังและธีม (Wallpapers and themes)
2. เลือกปรับลดความสว่างหน้าจออัตโนมัติ (auto brightness)
การตั้งโหมดปรับลดความสว่างหน้าจออัตโนมัติจะช่วยให้มือถือของคุณลดการใช้พลังงานแบตเตอรี่ได้เป็นอย่างดี เนื่องระบบจะปรับลดความสว่างของหน้าจอให้เข้ากับสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ที่คุณอยู่ในขณะนั้น
3. ปิดฟีเจอร์ Always On Display
อีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้คุณประหยัดแบตเตอรี่ได้มากกว่าเดิม ก็คือการปิดการใช่งานฟีเจอร์ Always On Display หรือฟีเจอร์แสดงวันเวลา และสถานะต่าง ๆ ขณะพักหน้าจอ ซึ่งฟีเจอร์ดังกล่าวจะทำงานตลอดเวลาส่งผลทำให้แบตเตอรี่หมดเร็ว
สำหรับวิธีปิดฟีเจอร์ Always On Display ไปที่การตั้งค่า (Settings) เลือกหน้าจอล็อกและระบบป้องกัน (Lock screen and security) จากนั้นเลือกปิด Always On Display
4. เช็กสถานะการใช้พลังงานแอพฯ (App power monitor)
สำหรับมือถือเรือธงอย่าง Galaxy S8 และ S8+ นั้น สามารถเข้าไปเช็กสถานะการใช้พลังงานแต่ละแอพฯ ในเครื่องได้ พร้อมกับเลือกปรับโหมด Save Power เพื่อหยุดการใช้พลังงานแบตเตอรี่ขณะที่ไม่ได้เรียกใช้งานแอพฯ
สำหรับวิธีการเช็กสถานะการใช้พลังงานแอพฯ ต่าง ๆ ไปที่การตั้งค่า (Settings) การบำรุงรักษาอุปกรณ์ (Device maintenance)และเลือกแบตเตอรี่ (Battery)
5. ติดตั้งแอพฯ Game Tuner สำหรับคอเกม
แอพฯ ที่จะช่วยปรับความละเอียดและเฟรมเรต (Frame Rate) ของเกม ซึ่งช่วยให้เล่นเกมได้อย่างลื่นไหลขึ้น นอกจากนี้แอพฯ Game Tuner ยังสามารถลดการใช้พลังงานแบตเตอรี่ขณะเล่นเกมได้อีกด้วย
ดาวน์โหลด Game Tuner สำหรับ Android 3.0.9 ขึ้นไป
6. ปิดฟีเจอร์ Smart stay
สำหรับฟีเจอร์ Smart stay คือฟีเจอร์ที่ช่วยให้หน้าจอมือถือของคุณเปิดตลอดเวลาในขณะกำลังอ่านข้อความหรือทำกิจกรรมอื่น ๆ อยู่โดยหน้าจอไม่ดับหรือมืดลง แม้จะไม่สัมผัสหน้าจอก็ตาม ซึ่งหากไม่จำเป็นต้องใช้งาน ควรปิดการใช้งานในส่วนนี้ลง เพราะฟีเจอร์ดังกล่าวเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้แบตเตอรี่หมดเร็ว
สำหรับวิธีปิด Smart Stay ไปที่การตั้งค่า (Settings) เลือกคุณลักษณะขั้นสูง (Advanced Features) และเลือก Off เพื่อปิดการใช้งานฟีเจอร์ Smart Stay
7. เลือกปรับตั้งค่าเวลาพักหน้าจออัตโนมัติ (Screen Timeout)
การตั้งค่าเวลาพักหน้าจออัตโนมัติ ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้มือถือคุณประหยัดพลังงานแบตเตอรี่ได้เป็นอย่างมาก เนื่องจากเวลาที่คุณไม่ใช้งานหรือลืมปิดหน้าจอมือถือ เมื่อถึงเวลาฟีเจอร์ดังกล่าวจะทำการพักหน้าจอให้อัตโนมัติทันที
สำหรับวิธีตั้งค่าเวลาการพักหน้าจออัตโนมัติ ไปที่การตั้งค่า (Settings) เลือกจอแสดงผล (Display) และเวลาการปิดหน้าจอ (Screen Timeout) โดยแนะนำให้เลือก 30 วินาที
8. เลือกปรับความละเอียดหน้าจอ (Change Screen resolution)
อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่มาพร้อม Galaxy S8 และ S8+ คือการปรับความละเอียดหน้าจอที่มีให้เลือก 3 ระดับ ได้แก่ HD+ (1,480 x 720 พิกเซล), FHD+ (2,220 x 1,080 พิกเซล) และ WQHD+ (2,960 x 1,440 พิกเซล) ซึ่งการเลือกใช้ความละเอียด HD+ จะช่วยทำให้กินไฟน้อยลงและช่วยประหยัดแบตเตอรี่ได้มากขึ้น
สำหรับวิธีตั้งค่าความละเอียดจอแสดงผล ไปที่การตั้งค่า (Settings) เลือกจอแสดงผล (Display) และเลือกความละเอียดหน้าจอ (Change Screen resolution) ที่ HD+ (1,480 x 720 พิกเซล)
9. ปิดฟีเจอร์ NFC
สำหรับวิธีประหยัดแบตเตอรี่ด้วยการปิดฟีเจอร์ NFC เหมาะสำหรับคนที่ไม่ใช้ Samsung Pay เนื่องจากการโอนถ่ายข้อมูลต่าง ๆ จะต้องอาศัยฟีเจอร์ NFC ในการโอนถ่ายข้อมูล ถึงแม้ว่าการเปิดฟีเจอร์ NFC จะใช้พลังงานแบตเตอรี่น้อยกว่า 1% ต่อวันก็ตาม แต่ผู้ใช้งานที่ไม่จำเป็นต้องใช้งาน Samsung Pay ก็ไม่ควรมองข้าม
สำหรับวิธีปิดการใช้งานฟีเจอร์ NFC มีอยู่ 2 วิธี โดยวิธีที่หนึ่งเลื่อนแถบการแจ้งเตือนลงมาและมองหาไอคอน NFC ในแถบการตั้งค่าด่วน ส่วนวิธีที่สองไปที่การตั้งค่า (Settings) เลือกการเชื่อมต่อ (Connections) จากนั้น Off เพื่อปิดการใช้งานฟีเจอร์ NFC
10. ปิดไฟแจ้งเตือน (LED indicator)
การปิดไฟแจ้งเตือนต่าง ๆ บนมือถือนับเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยประหยัดแบตเตอรี่ได้เป็นอย่างมาก ซึ่งหากผู้ใช้งานคนใดไม่มีเหตุจำเป็นต้องติดต่อกับใครอยู่ตลอดเวลาควรปิดฟีเจอร์ดังกล่าวลง
สำหรับวิธีปิดไฟแจ้งเตือน ไปที่การตั้งค่า (Settings) เลือกจอแสดงผล (Display) และเลือกปิดไฟสถานะ (LED indicator)
11. ปิดฟีเจอร์ Keep screen turned off
สำหรับฟีเจอร์ Keep screen turned off จะถูกเปิดใช้งานเป็นค่าเริ่มต้นใน Galaxy S8 และ S8+ ซึ่งหลักการทำงานของฟีเจอร์ดังกล่าวจะทำหน้าที่ปิดหน้าจออัตโนมัติเมื่อไม่ได้อยู่ในช่วงเวลาที่ใช้งาน เช่น อยู่ในกระเป๋าเพื่อป้องกันหน้าจอสว่างค้างขณะที่กดปุ่มแบบไม่ตั้งใจ
สำหรับวิธีปิดฟีเจอร์ Keep screen turned off ไปที่การตั้งค่า (Settings) เลือกจอแสดงผล (Display) และเลือกปิด Keep screen turned off
12. ปิดฟีเจอร์สแกนอุปกรณ์ใกล้เคียง (Nearby device scanning)
การปิดฟีเจอร์สแกนอุปกรณ์ใกล้เคียง จะช่วยให้ผู้ใช้งานจะช่วยประหยัดแบตเตอรี่ได้มากขึ้น เนื่องจากฟีเจอร์ดังกล่าวจะทำงานอยู่ตลอดเวลา แม้ว่าผู้ใช้งานจะปิด Bluetooth แล้วก็ตาม
สำหรับวิธีปิดฟีเจอร์สแกนอุปกรณ์ใกล้เคียง ไปที่การตั้งค่า (Settings) เลือกการเชื่อมต่อ (Connections) และเลือกเพิ่มเติม (More connection settings) และเลือกปิด Nearby device scanning
13. เลือกเปิดการเข้าถึงตำแหน่งเฉพาะแอพฯ ที่จำเป็น
แอพฯ หลาย ๆ ตัวบังคับการเข้าถึงตำแหน่งที่อยู่ของผู้ใช้งานหรือบังคับเปิดสัญญาณ GPS นั่นเอง ซึ่งส่งผลทำให้สิ้นเปลืองพลังงานแบตเตอรี่อย่างมาก ฉะนั้นผู้ใช้งานควรเลือกเปิดการเข้าถึงตำแหน่งเฉพาะแอพฯ ที่จำเป็นเท่านั้น โดยเข้าไปที่การตั้งค่า (Settings) เลือกการเชื่อมต่อ (Connections) เลือกพิกัดตำแหน่ง (Location) เลือก Locating method และเลือก Phone only เพื่อเลือกใช้งานได้เฉพาะแอพฯ หรือบริการที่มาพร้อมเครื่องเท่านั้น
14. ปิดฟีเจอร์ค้นหา Wi-Fi และ Bluetooth
การเปิดใช้งานฟีเจอร์ค้นหาสัญญาณ Wi-Fi และ Bluetooth จะส่งผลให้ตัวเครื่องใช้พลังงานแบตเตอรี่มากขึ้น ซึ่งหากผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องใช้บ่อย ๆ ให้เลือกปิดลง
สำหรับวิธีปิดฟีเจอร์ค้นหาสัญญาณ Wi-Fi และ Bluetooth ไปที่การตั้งค่า (Settings) เลือกการเชื่อมต่อ (Connections) เลือกพิกัดตำแหน่ง (Location) และเลือกเพิ่มประสิทธิภาพความแม่นยำ (Improve Accuracy) จากนั้นเลือกปิดการค้นหาสัญญาณทั้ง Wi-Fi และ Bluetooth ลง
15. ปิดฟีเจอร์การสั่งการด้วยท่าทาง (Gestures)
สำหรับฟีเจอร์การสั่งการด้วยท่าทางหรือคำสั่งการเปิดใช้งานฟังก์ชั่นต่าง ๆ เกี่ยวกับการใช้ระบบเซ็นเซอร์ทำงานแทนการสัมผัสบนหน้าจอ หรือตัวเครื่องไม่ว่าจะเป็นการใช้มือปัดไปมา เพื่อรับสายโทรศัพท์ หรือจับภาพหน้าจอ ถ้าหากคุณปิดฟีเจอร์ในโหมดดังกล่าวทั้งหมด ตัวเครื่องก็จะช่วยลดการใช้พลังงานแบตเตอรี่ได้เยอะขึ้นกว่าเดิม สำหรับอันไหนที่เห็นว่าเป็นประโยชน์น่าใช้งานก็สามารถเปิดไว้ได้ แต่อันไหนที่ไม่ได้ใช้งานก็ควรปิดไป
สำหรับวิธีปิดฟีเจอร์การสั่งการด้วยท่าทาง ไปที่การตั้งค่า (Settings) เลือกคุณลักษณะขั้นสูง (Advanced Features) จากนั้นจะพบคำสั่งการสั่งงานด้วยท่าทางต่าง ๆ ให้เลือกปิดคำสั่งเฉพาะที่ไม่ได้ใช้งาน
ภาพจาก phonearena