จาก OPPO Finder สู่ R5: นวัตกรรมความบางแห่งสมาร์ทโฟน

OPPO R5

OPPO R5

          OPPO R5: สมาร์ทโฟนขับเคลื่อนโลก
          จาก OPPO Finder สู่ R5: นวัตกรรมความบางแห่งสมาร์ทโฟน
          R5 สมาร์ทโฟนที่สร้างสรรค์ขึ้นมาจากภูมิปัญญา และนวัตกรรมของ OPPO

          วันที่ 29 ตุลาคม 2014 ณ. หาด Marina Bay ที่สวยงามและมีชื่อเสียงของประเทศสิงคโปร์ ประวัติศาสตร์หน้าใหม่แห่งวงการสมาร์ทโฟนต้องจารึกไว้เมื่อ OPPO เปิดตัวสมาร์ทโฟนที่บางที่สุดในโลก ณ. เวลานั้น กับ OPPO R5 ที่บางเฉียบเพียง 4.85 มม. รูปลักษณ์ที่เรียบง่าย หรูหรา โดดเด่นด้วยประสิทธิภาพของกล้อง และสเปกที่ร้อนแรง OPPO R5 ได้สร้างนิยามใหม่แห่งสมาร์ทโฟนที่เพรียวบางงดงาม และสร้างภาพลักษณ์ที่น่าจดจำในทันทีที่เปิดตัวสู่ท้องตลาด
สวมขุมพลังการประมวลผลด้วยชิป 64 บิต Qualcomm Snapdragon 8 แกน จอแสดงผล 5.2 นิ้ว แบบ AMOLED ความละเอียดระดับ Full HD 1080P แม้เรือนร่างจะเพรียวบาง แต่อันแน่นไปด้วยประสิทธิภาพในการทำงาน กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซลผ่านการรับรองคุณภาพโดย Schneider Kreuznach ผู้ผลิตเลนส์กล้องระดับโลก ให้ภาพถ่ายที่ความละเอียดสูงสุดเทียบเท่า 50 ล้านพิกเซลในโหมด Ultra HD ด้วยพลังของระบบประมวลผลภาพ PureImage 2.0+

 

          OPPO R5 ต่อยอดความสำเร็จจาก Finder สมาร์ทโฟนรุ่นพี่ที่เคยครองตำแหน่งความบางที่สุดในโลก

          R5 ไม่ใช่สมาร์ทโฟนเพรียวบางเครื่องแรกที่ถูกสร้างขึ้นโดย OPPO ในเดือนกรกฎาคมปี 2012 OPPO ได้ทำการเปิดตัวสมาร์ทโฟนที่บางที่สุดในโลก ณ เวลานั้น ในชื่อรุ่นว่า OPPO Finder ในขนาดความบางเพียง 6.65 มม. หน้าจอ 4.3 นิ้วแบบ Super AMOLED Plus หน่วยประมวลผลสองแกน 1.5GHz โครงสร้างตัวเครื่องผลิตขึ้นมาจากวัสดุไนล่อนและไฟเบอร์กลาส ห่อหุ้มด้วยวัสดุโลหะที่แข็งแกร่งและทนทานต่อแรงกดทับ

          OPPO Finder เป็นสมาร์ทโฟนที่โดดเด่นที่สุดในช่วงเวลานั้นด้วยรูปทรงที่เพรียวบาง และสเปกเครื่องในระดับสูง ทำให้เป็นสมาร์ทโฟนเครื่องแรกของโลกที่มีขนาดความบางน้อยกว่า 7 มม.และได้รับการตอบรับจากตลาดอย่างกว้างขวางในทันทีที่เปิดตัวจากการที่ OPPO Finder ประสบความสำเร็จทางด้านยอดขายอย่างกว้างขวาง ทำให้ OPPO ได้รับข้อเสนอแนะจำนวนมากจากผู้ใช้งาน ทำให้เรามีข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากมาย และสามารถนำไปใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ในอนาคตได้  และเราก็ได้ตั้งคำถามอยู่ในใจเสมอว่า อีกเมื่อไหร่กันที่เราจะได้ทำให้ผู้ใช้งานได้รู้สึกทึ่งกับสมาร์ทโฟนของ OPPO อีกครั้ง และเมื่อไหร่กันที่เราจะได้นำเสนอสมาร์ทโฟนที่บางกว่าเดิม และดีกว่าเดิม?

          อย่างไรก็ตาม การสร้างสรรค์สมาร์ทโฟนที่บางกว่าเดิม และแข็งแกร่งกว่าเดิม มันช่างเป็นความท้าทายครั้งยิ่งใหญ่ต่อทีมงานของ OPPO ไม่เพียงเฉพาะในมิติของอุตสาหกรรมการออกแบบ แต่ยังมีความท้าทายในเรื่องการคัดเลือกประเภทของวัสดุที่จะนำมาทำเป็นโครงสร้างของตัวเครื่อง รวมถึงความความท้าทายในเรื่องของเครื่องมือและเทคนิคในการผลิตสมาร์ทโฟนที่บางเฉียบ ให้มีความแข็งแกร่งทนทานเกินระดับที่ใครจะคาดคิด

          จนถึงตอนนี้ก็เป็นเวลากว่า2 ปีแล้วหลังจากการเปิดตัวของ OPPO Finder ก็มีหลายแบรนด์ที่สามารถผลิตสมาร์ทโฟนที่มีประสิทธิภาพ ภายใต้ความบางของตัวเครื่องที่น้อยกว่า 6 มม. และเพื่อที่จะให้สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ของเราโดดเด่นกว่าคู่แข่งในท้องตลาด ก็ยังคงมีหลายๆ คำถามที่เราจะต้องหาคำตอบให้ได้ อาทิ เราจะสร้างสมาร์ทโฟนที่สุดแสนจะเพรียวบาง แต่ยังคงโดดเด่นด้วยดีไซน์ที่สวยงามได้อย่างไร? เราจะเอาชนะข้อจำกัดทางเทคนิคที่มีอยู่ในอุตสาหกรรมการผลิตสมาร์ทโฟนได้อย่างไร? ทำอย่างไรจึงจะสามารถผลิตสมาร์ทโฟนที่บางเฉียบ โดยที่ไม่ต้องยอมแลกกับประสิทธิภาพที่จะลดลง? เราจะต้องเอาชนะความท้าทายเหล่านี้ให้ได้เพื่อที่จะนำเสนอสมาร์ทโฟนที่บางที่สุด แข็งแกร่งที่สุด และดีที่สุดสู่ผู้ใช้งาน
 

OPPO R5

Finder สมาร์ทโฟนเพรียวบางเครื่องแรกของ OPPO


R5: ก้าวข้าม 5 ขีดจำกัดสู่มิติใหม่แห่งความบาง

          ความท้าทายประการแรกของการสร้างสรรค์สมาร์ทโฟนที่เพรียวบางคือ อาจต้องยอมแลกกับประสิทธิภาพ และความลื่นไหลในการทำงานที่ลดลง เนื่องจากมีข้อจำกัดที่ไม่สามารถติดตั้งฮาร์ดแวร์ระดับสูงลงในตัวเครื่องที่มีขนาดแบนบาง โดยเฉพาะอย่างอย่างกับ OPPO R5 ที่มีขนาดความบางเพียง 4.85 มม. และอุปสรรคที่ท้าทายทีมงานนักวิจัยและพัฒนาของเรามากที่สุดคือ ทำอย่างไรจึงจะสามารถนำฮาร์ดแวร์สเปกแรง ใส่ลงในบอดี้ของ OPPO R5 ได้?

          OPPO ทุ่มเทเวลาและความศรัทธาเพื่อเอาชนะความท้าทาย ดังคำกล่าวของ Winston Churchill นายกรัฐมนตรีที่นำอังกฤษผ่าวิกฤตการณ์ และได้รับชัยชนะในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่เขาเคยได้กล่าวเอาไว้ว่า “ความสำเร็จประกอบไปด้วยการก้าวผ่านจากความล้มเหลวหนึ่ง ไปสู่อีกความล้มเหลวหนึ่ง โดยที่ไม่ลดละความพยายาม” และในที่สุดความพยายามของเราก็เป็นผล OPPO R5 บรรจุฮาร์ดแวร์ประสิทธิภาพสูงเอาไว้ภายใน ไม่ว่าจะเป็นชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 615 (MSM8939) ที่มีซีพียูแปดแกนประมวลผล ทำงานร่วมกับชิปกราฟิกประสิทธิภาพแรง Adreno 405 โดยในสภาวะปกติจะมีเพียงซีพียู 4 แกนที่กินพลังงานต่ำเท่านั้นที่ทำหน้าที่ และเมื่อมีโหลดงานการประมวลผลหนักๆ อย่างเช่นการเล่นเกม ซีพียูทั้ง 8 แกนจะทำงานร่วมกันเพื่อให้ประสบการณ์การใช้งานที่ลื่นไหล
 

OPPO R5

OPPO R5 ติดตั้งชิปประมวลผลประสิทธิภาพสูง

          การออกแบบให้ตัวเครื่อง OPPO R5 มีความแบนบางมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยที่ยังคงมีความสะดวกสบายในการหยิบจับใช้งานตัวเครื่อง นับเป็นอีกหนึ่งความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ในการสร้างสรรค์ OPPO R5 ในระหว่างช่วงเวลาของการวิจัยและพัฒนา ทีมงานของ OPPO ได้ทำการเปรียบเทียบกรรมวิธีในการผลิตบอดี้ตัวเครื่องที่มีทางเลือกถึง 10 รูปแบบ จนได้บทสรุปมาเป็นกรรมวิธีการผลิตบอดี้แบบ Micro-arc ที่ทำให้ตัวเครื่องมีความแข็งแกร่งภายใต้รูปทรงที่เพรียวบาง รวมถึงการออกแบบรูปทรงให้ขอบข้างด้านบนของตัวเครื่องกว้างกว่าขอบล่าง 1.2 มม. ทำให้ขอบข้างมีความโค้งรับกับสรีระของฝ่ามือ ทำให้หยิบจับตัวเครื่องได้กระชับมือ
 

OPPO R5

OPPO R5 แข็งแกร่งด้วยโครงสร้างตัวเครื่องที่ผลิตด้วยเทคนิค Micro-arc

          ด้วยความเพรียวบางที่เหนือกว่าสมาร์ทโฟนทั่วไป ทำให้ OPPO เผชิญกับปัญหาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในการออกแบบสมาร์ทโฟน คือจะทำอย่างไรให้ชิ้นบอดี้กลางของตัวเครื่องที่แบนบาง สามารถทนทานต่อแรงกระแทก หรือแรงบีบอัดที่เกิดขึ้นจากการใช้งานสมาร์ทโฟนในชีวิตประจำวันได้ R5 ยังคงเดินหน้าในการหาเทคโนโลยีใหม่ๆ มาอัพเกรดความแข็งให้กับโครงสร้างของตัวเครื่อง ด้วยกระบวนการชุบแข็งแบบ PVD ที่ช่วยเพิ่มค่าความแข็งของบอดี้จากระดับ 250HV (Hardness Value ค่าความแข็ง) ขึ้นมาอยู่ที่ 400HV ทำให้มีความทนทานสูงต่อริ้วรอยขีดข่วน และทำให้ตัวเครื่องแข็งแกร่งอย่างแท้จริง OPPO  R5 ผ่านการทดสอบความทนทานโดยการใช้น้ำหนัก 25 กก. กดลงไปที่ตัวเครื่องถึง 1,000 ครั้งโดยที่ไม่เกิดความเสียหายใดๆ ทำให้ผู้ใช้งานเลิกกังวลใจไปได้เลยว่า OPPO R5 จะบิดงอในขณะใช้งาน
 

OPPO R5

โครงสร้างที่เสริมความแข็งแกร่งให้ OPPO R5

          อีกหนึ่งปัญหาที่เป็นข้อกำจัดของอุตสาหกรรมการผลิตสมาร์ทโฟนคือ จะแก้ปัญหาแบตเตอรี่ความจุต่ำในสมาร์ทโฟนเครื่องที่มีความแบนบางได้อย่างไร?
ด้วยแบตเตอรี่ขนาด 2,000mAh ที่อาจจะดูเหมือนความจุน้อย แต่ OPPO R5 ก็เอาชนะขีดจำกัดนี้ได้ด้วยจอภาพที่ถูกออกแบบมาให้ประหยัดพลังงาน รวมถึงโหมดการทำงานที่รองรับรูปแบบการใช้งานสมาร์ทโฟนที่หลากหลาย และถ้าแค่นี้ยังไม่เพียงพอที่จะลบล้างความกังวลใจเกี่ยวกับระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ของสมาร์ทโฟนเครื่องบาง OPPO R5 ก็มีฟีเจอร์ที่ได้รับการอัพเกรดใหม่อย่างระบบชาร์จเร็วแบบ VOOC mini ที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็ม 75% ได้ภายในเวลาเพียง 30 นาที และยังมีอุปกรณ์Power Bank ชาร์จเร็ว และอุปกรณ์ชาร์จเร็วสำหรับการเสียบชาร์จในรถยนต์ เพื่อรองรับความต้องการในการชาร์จแบตฯ นอกสถานที่ ทำให้เลิกกังวลเรื่องปัญหาแบตฯ หมดไปได้เลย
 

OPPO R5

VOOC mini เทคโนโลยีชาร์จไวระดับโลกของ OPPO

          ด้วยความตั้งใจอันแน่วแน่ของ OPPO ในการที่จะสร้างสรรค์สมาร์ทโฟนที่เป็นส่วนผสมของกล้องถ่ายภาพระดับมืออาชีพ เข้ากับอุปกรณ์ที่จะช่วยอัพเกรดไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งาน แนวคิดที่เรายังคงยึดมั่นอยู่เสมอคือ ทำอย่างไรสมาร์ทโฟนจึงจะบางลงเรื่อยๆ และต้องให้ประสบการณ์การถ่ายภาพด้วยสมาร์ทโฟนที่ยอดเยี่ยม ซึ่ง 2 สิ่งนี้เป็นความภูมิใจของ OPPO เสมอมา

          ในอดีต เซ็นเซอร์ภาพของกล้องดิจิตอลที่ประสิทธิภาพดีเยี่ยม ไม่เคยบรรจุอยู่ในสมาร์ทโฟนที่มีตัวเครื่องเพรียวบาง OPPO R5 เป็นส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างกล้องดิจิตอลที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางของ OPPO Find 7 ที่มีขนาดความละเอียด 13 ล้านพิกเซล บวกกับชุดเลนส์ระดับคุณภาพของ Schneider-Kreuznachและเทคโนโลยีการประมวลผลภาพล่าสุด PureImage 2.0+ ที่ไม่เพียงแต่ถ่ายภาพได้ที่ความละเอียดสูงเทียบเท่า 50 ล้านพิกเซล แต่ยังรองรับโหมดการถ่ายภาพที่เหมาะสำหรับสถานการณ์ที่หลากหลาย
 

OPPO R5

ระบบกล้องที่ผ่านการรับรองจาก Schneider-Kreuznachผู้ผลิตเลนส์ชั้นนำของโลก


ย้อนประวัติศาสตร์: สมาร์ทโฟนเพรียวบางที่น่าจดจำ

          อุตสาหกรรมสมาร์ทโฟนใช้เวลากว่า 10 ปีในการลดขนาดความบางจาก 13.9 มม. ในปี 2004 ลงให้เหลือ 4.85 มม. ในปี 2014 มีหลายแบรนด์ที่เข้าร่วมในการแข่งขันครั้งนี้ และ OPPO เองก็เป็นหนึ่งในผู้แข่งขัน ด้วยความเชื่อมั่นที่ว่า การออกแบบสมาร์ทโฟนให้มีความเพรียวบาง จะทำให้ผู้ใช้งานได้สัมผัสกับประสบการณ์ใหม่ๆ และช่วยอัพเกรดความสะดวกคล่องตัวในการใช้งานขึ้นไปอีกระดับ เราจึงมุ่งมั่นเดินไปบนเส้นทางนี้เพื่อไปให้ถึงความสมบูรณ์แบบ


2004: MOTO RAZR V3, 13.9 มม.
โทรศัพท์มือถือแบบฝาพับที่แบนบางเหมือนใบมีดโกน  MOTO RAZR V3ทำให้เกิดนวัตกรรมทางด้านดีไซน์และเทคโนโลยี  และกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งยุคบุกเบิกของโทรศัพท์มือถือแบนบาง


2005: NEC L1, 11.9 มม.
NEC L1 เป็นตัวแทนของโทรศัพท์มือถือแบนบางในโลกยุคใหม่ที่มีฟีเจอร์การทำงานที่ครอบคลุมทุกความต้องการ ทำให้กลายเป็นโทรศัพท์ที่โดดเด่นที่สุดแห่งปี


2008: Nokia E71, 10มม.
Nokia E71 เป็นโทรศัพท์มือถือเครื่องบางบอดี้โลหะที่ติดตั้งซอฟต์แวร์ที่เป็นประโยชน์  อย่างเช่นQuick office ตอบโจทย์ความต้องการของคนทำงาน


2010: iPhone 4, 9.3มม.
iPhone 4 เป็นหลักไมล์สำคัญในประวัติศาสตร์ของสมาร์ทโฟนเพรียวบาง เพราะผู้คนต่างก็ให้ความสนใจกันมากกับการเปิดตัวของ iPhone 4 ทั้งยังมีนวัตกรรมใหม่หลายๆ รายการในสมาร์ทโฟนเครื่องนี้


2011: MOTO XT910, 7.1 มม.
XT910 สานต่อความบางจากซีรีส์ Motorola RAZR


2012: OPPO Finder, 6.65 มม.
ด้วยความบางเพียง 6.65 มม. ทำให้ OPPO Finder ได้รับตำแหน่งสมาร์ทโฟนที่เพรียวบางที่สุดแห่งปี และสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่น่าประทับใจให้กับผู้ใช้งานด้วยหน้าจอแบบ Super AMOLED Plus และซีพียูแบบ Dual-core


2014: OPPO R5, 4.85มม.
สมาร์ทโฟนที่เพรียวบางและถ่ายภาพได้ดีที่สุดในโลก และเป็นสมาร์ทโฟนเครื่องแรกที่มีความบางน้อยกว่า 5 มม.

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
จาก OPPO Finder สู่ R5: นวัตกรรมความบางแห่งสมาร์ทโฟน อัปเดตล่าสุด 22 ธันวาคม 2557 เวลา 10:17:38
TOP