กลับมาพบกันอีกครั้งกับมหกรรมมือถือครั้งใหญ่ส่งท้ายปี ‘Thailand Mobile Expo 2016 Hi-End’ รอบนี้แม้จะห่างจากรอบก่อนถึง 4 เดือน แต่รับประกันความร้อนแรงของ Device ที่เตรียมอัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขายแบบจัดเต็ม พร้อมผ่อน 0% / ลดราคาเมื่อซื้อพร้อมแพ็กเก็ ฯลฯ นอกจากนี้ ยังมี Android ระดับกลางจากหลากแบรนด์ ขนมาเป็นกองทัพให้เลือกช้อปตามใจชอบ รวมถึงอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ทั้งเคส, ฟิล์มกันรอย, แว่น 3D VR, กล้อง Action Cam ฯลฯ เรียกว่า ‘มาครบ จบที่เดียว’ ! สำหรับวันนี้มาชม กว่า 70 รุ่น สมาร์ทโฟนที่น่าสนใจในงาน #mobileexpo ขอบอกว่างบ 1,xxx บาท ก็หาสมาร์ทโฟน Android รองรับ 3G / สองซิม ออปชั่นครบมาใช้งานได้แล้ว แถมหลายรุ่นยังเตรียมลดราคาอีกด้วย
Samsung
Galaxy J1 (2016)
ห่างหายจากมือถือระดับล่างมานาน ไม่นานมานี้ Samsung กลับลงสนามอีกรอบ ส่ง 'Galaxy J1 (2016)' หรือ Galaxy J1 Version 2 วางจำหน่ายราคาเพียง 3,690 บาท กับคุณสมบัติสมราคา รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด / 3G เล่นเน็ตเร็วแรง หน้าจอ Super-AMOLED แสดงผลคมชัดกว่าเดิม ขนาด 4.5 นิ้ว, ชิปประมวลผล Quad-Core + RAM 1GB ตอบโจทย์การใช้งานทั่วไปได้ดี รันบน Android 5.1 เพิ่ม microSD ใส่เพลง - ภาพได้สูงสุด 128 GB เหลือเฟือเลยล่ะ
Galaxy J7 Version 2
รุ่นยอดฮิตตระกูล J-Series สามารถเป็นเจ้าของรุ่นใหม่ได้แล้วกับ 'Galaxy J7 Version 2' ปรับปรุงทั้งดีไซน์ วัสดุเฟรมขอบโลหะ แถมยังแรงขึ้น - แบตอึดขึ้นด้วย หน้าจอชนิด Super-AMOLED แสดงผลคมชัด (HD) ขนาด 5.5 นิ้ว, ชิปประมวลผล Exynos 7870 แรงกว่าเดิม + RAM 2 GB รองรับเกมกราฟิกสูงกำลังดี , สตรีมมิ่งวิดีโอ FHD สบาย ๆ รองรับ 4G LTE / ใช้งาน 2 ซิมการ์ด พร้อมแบตเตอรี่ 3,300 mAh อึดมาก ! ราคาสบายกระเป๋าครับ
Galaxy A5 (2016)
อัพจากซีรี่ส์ J ยังคงเป็น Galaxy A5 (2016) ที่คาดว่าจะมีเทกระจาดส่งท้ายงานนี้ ด้านสเปคค่อนข้างโอเคครับ หน้าจอ Super-AMOLED ขนาด 5.2 นิ้ว (FHD) แสดงผลคมชัด เต็มตาสุด ๆ ขนาดบอดี้เล็กพกพาไม่ยาก เฟรมบอดี้โลหะอะลูมิเนียม ชิปประมวลผล Octa-Core 1.6 GHz + RAM 2 GB รันบน Android 5.1.1 กล้องความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อม OIS ป้องกันเลนส์สั่นเวลาถ่ายกลางคืน รองรับ 4G LTE และใช้งาน 2 ซิมการ์ด รุ่นนี้จะคล้ายคลึงกับ 'Galaxy A7 (2016)' ดังนั้นสามารถเพิ่มงบประมาณเพื่อลองดูรุ่นนี้ได้เช่นกัน
Galaxy A7 (2016)
รูปลักษณ์สวยงาม คุณสมบัติสเปคอลังการ หน้าจอขนาดใหญ่ พร้อมราคาจับต้องไม่ยาก 'Galaxy A7 2016' จึงกลายเป็นรุ่นยอดนิยมประจำ (ครึ่งแรก) ปี 2016 มาพร้อมกับหน้าจอ Super-AMOLED ขนาด 5.5 นิ้ว (FHD), ชิปประมวลผล Exynos Octa-Core + RAM 3 GB ทำงานรวดเร็วบน Android 5.1.1 ติดกล้องความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมระบบ OIS ป้องกันเลนส์สั่น บันทึกวิดีโอ FHD และแบตเตอรี่ 3,300 mAh, รองรับ 4G LTE มีระบบ Fast-Charge ชาร์จเร็วทันใจ แบบเดียวกับรุ่นระดับบน รุ่นนี้มีโปรแรง ๆ แน่นอนครับ เพราะวางจำหน่ายมาแล้วหลายเดือน เช่นเดียวกับ 'Galaxy A5 (2016)'
Galaxy A9 Pro (2016)
ต้องบอกว่าไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง หากคุณชื่นชอบมือถือหน้าจอขนาดใหญ่ สำหรับดูหนัง เล่นเกม ชมซีรี่ส์ ตีโปเกมอน แนะนำ 'Galaxy A9 Pro' โดดเด่นด้วยหน้าจอ Super-AMOLED ขนาดยักษ์ 6.0 นิ้ว (FHD) ขอบหน้าจอแคบ แสดงผลเต็มตา, บอดี้โลหะทนทาน เช่นเดียวกับ Galaxy A7 (2016) รองรับการเชื่อมต่อครบเครื่องทั้ง 4G LTE / 2 ซิมแบบใช้งาน 4G + 3G พร้อมกัน เพิ่มเมมโมรี่ภายในสูงสุด 128 GB ที่น่าสนใจสุดคือแบตเตอรี่ 5,000 mAh สะใจที่สุด ชาร์จครั้งเดียวอยู่ยาวตลอดวัน ! ไม่ควรพลาดทีเดียวครับ
Galaxy Note 5
สำหรับ Galaxy Note 5 ยังคงเป็นอีกรุ่นที่น่าเล่นมาก ฟีเจอร์ครบ ดีไซน์หรูหรา ปากกาใช้งานได้ดี พร้อมรันบน Android 6.0.1 ชาร์จเร็ว รองรับ 4G LTE มาครบ ยกเว้นอย่างเดียวตรงเพิ่ม microSD ไม่ได้ ชิปประมวลผล Exynos 7420 + RAM 4 GB เร็วแรงใช้งานได้ดี เล่นเกมกราฟิกสูงสบาย ครับ คาดหวังกับโปรโมชั่นในงาน #mobileexpo มีจัดหนักอย่างแน่นอน
Galaxy S7 & Galaxy S7 Edge
หากคุณมองว่า Galaxy Note ไม่จำเป็นหรือราคาสูงไป สามารถมอง ‘Galaxy S7’ หรือ ‘Galaxy S7 Edge’ เป็นตัวเลือกได้เช่นกัน สองรุ่นนี้มีความแตกต่างเฉพาะหน้าจอ (5.1 นิ้ว) กับหน้าจอแบบโค้ง (5.5 นิ้ว) แบบ Super-AMOLED, ความจุแบตเตอรี่ และฟีเจอร์เสริมนิดหน่อย ส่วนอื่น ๆ เหมือนกัน ชิปประมวลผล Exynos 8890 + RAM 4 GB, เมมโมรี่ภายใน 32 GB กล้อง 12MP คุณภาพจัดเต็ม ออปชั่นแน่น พร้อมรัน Android 6.0.1 ในตัว ใช้งานได้อีกนานครับ ตามสไตล์ Flagship ที่เหลือคือโปรโมชั่นในงาน #mobileexpo ต้องรอติดตาม
Galaxy Tab A 7.0
แท็บเล็ต Android ราคาสบายกระเป๋า หน้าจอขนาด 7.0 นิ้ว เหมาะกับใช้งานดูหนัง ดู YouTube เล่นเกมกลาง ๆ ได้ดี สเปคมาพร้อมชิปประมวลผล Quad-Core + RAM 1GB, Android 5.1.1 ทำงานรวดเร็วกำลังดี ใส่ซิมใช้งาน 4G LTE เล่นเน็ต และ .. โทรออกได้ ! ไม่ต่างจากสมาร์ทโฟนเลยทีเดียว ดีไซน์ขนาดพกพาไม่ยากนัก แบตเตอรี่ 4,000 mAh ทั้งหมดนี้ราคาไม่แพงเพียง 6,xxx บาทเท่านั้นเอง มีให้เลือก 2 สีหลัก ๆ คือ ขาว - ดำครับ
Galaxy Tab S2 8.0/9.7
ไม่ใช่รุ่นใหม่ครับ ออกมาเกือบ 1 ปีเต็ม แต่ถามว่าคุณสมบัติสเปคยังโอเคมั้ย ? ตอบได้เลยว่า ‘แรง’ สมราคาอยู่ ทั้ง 2 รุ่นมีความแตกต่างตรงขนาดหน้าจอ - ความจุแบตเตอรี่เท่านั้น ตัวหนึ่งขนาดหน้าจอ 8.0 นิ้ว น้ำหนักเบาหวิว บอดี้โลหะทนทาน พกพาไม่ยาก ส่วนอีกรุ่นขนาดจอ 9.7 นิ้ว เหมาะกับตั้งโต๊ะ / มีขาตั้งสำหรับใช้งานกับเอกสาร – แอพพลิเคชั่น ฯลฯ เร็วแรงด้วยชิปประมวลผล Exynos 7420 + RAM 3 GB กล้อง 8MP ใส่ซิมการ์ดใช้งาน 4G LTE + โทรออกไม่ต่างจากสมาร์ทโฟน ด้านราคาคาดว่าจะปรับลงพอสมควร เนื่องจากออกมานานแล้วนั่นเอง
Asus
Zenfone Go 4.5 (ZB452KG)
รุ่นเล็กขนาดจิ๋วของกลุ่ม Zenfone Go ราคาประหยัดสุด ๆ เริ่มต้นไม่ถึง 3,000 บาท กับ Zenfone Go (ZB452KG) ขนาดหน้าจอ 4.5 นิ้ว ดีไซน์กะทัดรัด จับถือง่าย สเปคสมราคาครับ ชิปประมวลผล Quad-Core + RAM 1 GB, Android 5.1 กล้องความละเอียด 5MP ถ่ายง่าย แชร์ผ่าน Social สะดวก, รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด / 3G ทุกค่าย และมีฝาหลังให้เลือก 2 แบบคือ ฝาหลังผิวด้าน กับ ลายเมทัลลิก หาซื้อมาใช้งานได้เลย
Zenfone Go TV (ZB551KL)
นอกจากรุ่นเล็กแล้ว Asus ยังส่ง Zenfone Go ที่สามารถรองรับสัญญาณ Digital TV ในตัว มาวางขายด้วยกับ ZB551KL สเปคใกล้เคียงกับ Zenfone 2 Laser ที่วางจำหน่ายก่อนหน้า แต่มีออปชั่นเรื่องทีวีเข้ามาเพิ่ม หน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว (HD) แสดงผลค่อนข้างดี ชิปประมวลผล Quad-Core + RAM 2 GB, กล้องความละเอียด 13MP แบตเตอรี่ 3,100 mAh อึดใช้ได้ กับราคาประมาณ 5,xxx บาท เป็นอีกรุ่นที่น่าหามาใช้งาน ถ้าชอบดูทีวีนะครับ ไม่ต้องเสียค่าเน็ตด้วย
Zenfone 3 Max (ZC520TL)
รุ่นภาคต่อของ Zenfone Max ตัวแบตอึดระดับตำนาน อย่างไรก็ดี ‘Zenfone 3 Max’ มีการปรับสเปคพอสมควร หน้าจอขนาด 5.2 นิ้ว (HD), ชิปประมวลผล Quad-Core 1.5 GHz + RAM 2 GB รันบน Android 6.0.1 ทำงานรวดเร็ว กล้องหลักความละเอียด 13MP ส่วนแบตเตอรี่ความจุ 4,100 mAh แม้ความจุจะลดลง แลกกับบอดี้บางลงเล็กน้อย พร้อมวัสดุโลหะ ทนทาน สวยงาม รองรับ 4G LTE สามารถสแกนลายนิ้วมือด้านหลังได้อีก
Zenfone 2 Laser 5.5 SE
คาดว่าจะเป็นอีกรุ่นที่ขายค่อนข้างดีเช่นกัน จากคุณสมบัติสเปค-ราคาสมเหตุสมผล ‘Zenfone 2 Laser 5.5 SE’ อัพเกรดจากรุ่นก่อนหน้าคือ เพิ่ม RAM เป็น 3 GB + เมมโมรี่ภายใน 32 GB หน้าจอขนาดใหญ่ 5.5 นิ้ว (HD), ชิปประมวลผล Snapdragon 615 พร้อมกล้องหลักความละเอียด 13MP / กล้องหน้า 5MP มีระบบ Laser-AF โฟกัสภาพรวดเร็วขึ้น รองรับ 4G LTE / ใช้งาน 2 ซิมการ์ด แบตเตอรี่ 3,000 mAh ส่วนดีไซน์อะไรยังเหมือนเดิมทุกอย่าง เช่นเดียวกับซอฟต์แวร์ด้านใน
Zenfone 3 Laser (ZC551KL)
เชื่อว่าเป็น Zenfone 3 ที่น่าจะขายดีเพราะราคาไม่แพง (8,990 บาท) แต่หน้าตาสวย บอดี้โลหะมีให้เลือก 2 สีสัน หน้าจอขนาดใหญ่ 5.5 นิ้ว (FHD), ชิปประมวลผล Snapdragon 430 + RAM 2 GB งวดนี้ใช้งานสองซิม 4G + 3G พร้อมกันได้แล้ว รันบน Android 6.0.1 กล้องหลัก 13MP ขาดไม่ได้เลยคือ Laser-AF โฟกัสภาพไวสะใจ กล้องหน้าสุดหลังการ 8MP และแบตเตอรี่ 3,000 mAh หรือจะเพิ่มงบอีกนิดมาเล่น ‘Zenfone 3’ ตัวหลักเลยก็ดีนะ
Zenfone 3 (ZE520KL, ZE552KL)
พระเอกของงานนี้อาจไม่ใช่รุ่น Flagship แต่เป็นชายกลาง สเปคแจ่ม ราคาโดนใจ กระแสดีไม่น้อย ‘Zenfone 3’ ซึ่งทาง Asus นำมาจำหน่าย 2 รุ่นย่อยคือ ZE520KL ขนาดหน้าจอ 5.2 นิ้ว และ ZE552KL ขนาดหน้าจอ 5.5 นิ้ว สเปคภาพรวมใกล้เคียงกัน เพียงแต่รุ่น 5.5 นิ้ว จะจัดเต็ม RAM 4 GB + เมมโมรี่ 64 GB ขณะที่ 5.2 นิ้วได้ RAM 3 GB + เมมโมรี่ 32 GB, ชิปประมวลผล Snapdragon 625, กล้องหลัก 16MP มีระบบ OIS / Laser-AF ฯลฯ, รองรับ 2 ซิมการ์ด (4G+3G) รันบน Android 6.0.1 แถมบอดี้ยังบางเฉียบ วัสดุโลหะ-กระจกอีกด้วย ห้ามพลาด !
Zenfone 3 Ultra
ครั้งแรกของ Asus ที่นำเสนอ Phablet หน้าจอขนาดมหึมากับ ‘Zenfone 3 Ultra’ ใหญ่สะใจหน้าจอ 6.8 นิ้ว อีกนิดจะเท่า Tablet แล้ว ชิปประมวลผล Snapdragon 652 + RAM 4 GB ประมวลผลแรงเร็วทันใจ เล่นเกมกราฟิกสูง ดูหนัง สตรีมมิ่งได้ดีเยี่ยม กล้องความละเอียด 23MP มีระบบ OIS, Laser-AF, ระบบเสียง Hi-Fi 24-Bit จัดเต็ม และแบตเตอรี่ 4,600 mAh ทั้งนี้ ค่าตัวของ Zenfone 3 Ultra อาจจะสูงสักหน่อย ต้องรอติดตามว่ามีโปรโมชั่นอะไรออกมาบ้างนะครับ
Zenfone 3 Deluxe (ZS570KL)
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อเมื่อ Asus ทำสมาร์ทโฟนตัวเรือธง ราคาทะลุ 20,000 บาท มาวางจำหน่ายแข่งกับแบรนด์ชั้นนำ ‘Zenfone 3 Deluxe’ มาพร้อมกับความเป็นที่สุดหลายด้าน ทั้งชิปประมวลผล Snapdragon 821 + RAM 6 GB ! (รุ่นท็อป) แรงจนไม่รู้จะบรรยายยังไง เมมโมรี่ภายในสูงสุด 256 GB (เพิ่ม microSD ได้อีก), กล้องความละเอียด 23MP ระบบ OIS, Laser-AF รองรับวิดีโอ 4K บอดี้บางเฉียบ วัสดุโลหะทั้งหมด รันบน Android 6.0.1 แต่เสียดายนิดหน่อยตรงหน้าจอให้มาแค่ FHD 5.7 นิ้ว ขณะที่ราคาเริ่มต้น 21,990 บาท (Snapdragon 820 + RAM 4 GB, 64 GB) แน่นอนครับ มีของจริงให้ลองในงาน
ZenPad 3s
ถึงตลาดแท็บเล็ตบ้านเราจะซบเซา ตามเทรนด์มือถือจอใหญ่มาทดแทน แต่คาดว่า Asus จะนำแท็บเล็ตจอ 10 นิ้วตัวใหม่มาวางขาย ‘ZenPad 3s’ สเปคจัดว่าไม่ธรรมดา หน้าจอขนาด 10 นิ้ว (2,048 x 1,536), ชิปประมวลผล Hexa-Core + RAM 4 GB รันบน Android 6.0.1 มีระบบสแกนลายนิ้วมือ บอดี้โลหะบางเพียง 7.2 มิลลิเมตร น้ำหนักพกพาใส่กระเป๋าไม่ยากนัก ติดกล้องมาให้ 8MP ทั้งนี้จะมีมาวางขายหรือไม่คงต้องติดตามกันอีกทีหนึ่งครับ
Huawei
Y5 II
วางจำหน่ายไม่นานมานี้ เคาะราคาเพียง 3,xxx บาท เอาใจคนชอบ Selfie ด้วยกล้องหน้าความละเอียด 5MP พร้อมไฟ LED ช่วยถ่ายภาพ หน้าจอขนาดพอดี ๆ 5.0 นิ้ว (HD) ชิปประมวลผล Quad-Core + RAM 1 GB รันบน Android 5.1 ใช้งานฟีเจอร์ทั่วไปได้ดี ใช้งาน 2 ซิมการ์ด กล้องหลัก 8MP เสียดายไม่รองรับ 4G LTE แต่ราคาก็ถูกมากครับ ลองเล่นภายในงานได้เลย
Y6 II
รุ่นเล็กแต่สเปคไม่ธรรมดา ‘Huawei Y6 II’ เด่นกว่าใครด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ 5.5 นิ้ว (HD) แสดงผลค่อนข้างดีทีเดียว ดีไซน์สวยงาม ฝาหลังลวดลาย Texture ข้าวหลามตัด, ชิปประมวลผล Octa-Core 1.2GHz + RAM 2 GB ทำงานรวดเร็ว รองรับการใช้งานทั่วไปได้ดี กล้องความละเอียด 13MP พร้อมกล้องหน้า 8MP เหมาะกับใช้ Selfie เน้นความคมชัดสมจริง รองรับ 4G LTE, ใช้งาน 2 ซิมการ์ด และแบตเตอรี่ 3,000 mAh ใช้งานเพียงพอใน 1 วัน
G7 Plus
ถึงจะเปิดตัวผ่านมาทั้งสมรภูมิต้นปี-กลางปี 2559 ตอนนี้คุณสามารถเป็นเจ้าของ Huawei G7 Plus ในราคาย่อมเยากว่าเดิม ขณะที่ดีไซน์หรูเกินราคา วัสดุบอดี้โลหะ Unibody หน้าจอขนาดใหญ่ 5.5 นิ้ว (FHD) แสดงผลคมชัด รันบน Android 6.0 เวอร์ชั่นเกือบล่าสุด ทำงานรวดเร็ว อินเตอร์เฟซเรียบง่าย, กล้องความละเอียด 13MP รองรับ 4G LTE, ระบบสแกนลายนิ้วมือ ฯลฯ ชิปประมวลผล Octa-Core 1.5GHz + RAM 3 GB แรงเร็วกำลังดี
P9 Lite
น้องสุดท้องของตระกูล P9 Series ได้รับความนิยมอย่างมากในตอนนี้ หน้าตาสวยครับ บางแค่ 7.5 มิลลิเมตร บอดี้เฟรมโลหะทนทาน หน้าจอขนาดใหญ่ 5.2 นิ้ว (FHD) แสดงผลคมชัด ชิปประมวลผล Octa-Core 2 GHz + RAM 2 GB เล่นกราฟิกสูงได้ วิดีโอ Full HD รันแอพฯ ทั่วไปไม่มีปัญหา บน Android 6.0.1 ด้านกล้องใส่มาให้ 13MP และกล้องหน้า 8MP, เมมโมรี่ภายใน 16 GB เพิ่ม microSD ได้ ครบขนาดนี้ราคาแค่ 8,990 บาทเท่านั้นเอง
P9
นาทีนี้ถามว่าอะไรคุ้มในราคา 15,000 บาท คงไม่มีอะไรดีไปกว่า ‘Huawei P9’ รุ่นยอดฮิต พิมพ์นิยมจาก Huawei อีกแล้ว ดีทุกสิ่งอย่าง โดยเฉพาะกล้องเลนส์คู่ 12MP พัฒนาร่วมกับ ‘Leica’ พร้อมฟีเจอร์เสริมถ่ายภาพมากมาย เช่น ปรับระยะชัดตื้น-ลึก (DOF) อย่างแนบเนียน, ถ่ายภาพขาวดำ (Monochrome) ฯลฯ ขณะที่สเปคอื่นถือว่าแรงเกินราคา ทั้งชิปประมวลผล Kirin 950 + RAM 3 GB, เมมโมรีภายใน 32 GB รองรับ 4G LTE / 2 ซิมการ์ด รันบน Android 6.0.1 และรองรับพอร์ต USB Type-C ด้วย
Mate 8
งานนี้น่าจับตา Huawei Mate 8 เรือธงปัจจุบัน ที่คาดว่าจะปรับราคา-อัดของแถมกระหน่ำ สเปคภาพรวมใกล้เคียงกับ Huawei P9 Plus แต่หน้าจอขนาดใหญ่กว่า (6.0 นิ้ว) ความละเอียด FHD, ชิปประมวลผล Kirin 950 + RAM 4 GB แรงทันใจ เล่นเกมดูหนัง 4K สบาย ๆ รันบน Android 6.0.1 ทำงานรวดเร็ว ฟีเจอร์เพียบเหมือนรุ่นอื่น ๆ ด้านกล้องให้มา 16MP ถึงไม่ใช่เลนส์คู่ แต่คุณภาพแซ่บไม่แพ้กัน รองรับการเชื่อมต่อครบถ้วน เมมโมรีภายใน 64 GB พร้อมบอดี้โลหะ Unibody พรีเมียมสุด ๆ ที่น่าจับตามองคือราคา-โปรโมชั่นในงาน ไม่ควรพลาดครับ
P9 Plus
รุ่นราคาสูงที่สุดของ Huawei ณ เวลานี้ และสเปคสูงสุดเทียบเท่า Mate 8 ด้วย สำหรับ ‘Huawei P9 Plus’ มีจุดขายคล้ายกับ P9 คือ กล้องหลักเลนส์คู่ 12MP พัฒนาร่วมกับ Leica ฟีเจอร์การใช้งานไม่แตกต่างกัน หน้าจอขนาดใหญ่ขึ้น (5.5 นิ้ว) FHD แสดงผลคมชัด เหมาะกับใช้งานทั่วไป, ชิปประมวลผล Kirin 955 + RAM 4 GB เร็วสุด ณ ตอนนี้ พร้อมเมมโมรีภายใน 64 GB เพิ่ม microSD ได้อีก นอกจากนี้แบตเตอรี่ยังจัดให้ 3,400 mAh และบอดี้โลหะขัดเงาเมทัลลิกสวยงาม คาดว่าโปรโมชั่นน่าจะออกมาแรงทีเดียว
Lenovo | Moto
Vibe K5 / Vibe K5 Plus
วางจำหน่ายมาพักหนึ่งแล้วกับ 2 โมเดลรุ่นกลางจาก Lenovo ที่สามารถจับจองเป็นเจ้าของได้ง่าย ๆ ‘Lenovo Vibe K5’ เป็นรุ่นพัฒนาต่อจาก Lenovo A6000 จะเห็นว่าดีไซน์คล้ายกันครับ แต่ปรับฝาหลังเป็นโลหะ (สามารถถอดได้) พรีเมียมขึ้นเยอะ หน้าจอขนาด 5.0 นิ้ว ขนาดพอดี ๆ มือ, ชิปประมวลผล Snapdragon 415/616 + RAM 2 GB / 3 GB ซึ่งมีหลายรุ่นย่อยให้เลือก กล้อง 13MP ลำโพงคู่สเตอริโอด้านหลัง รันบน Android 5.1 โดยราคาเริ่มต้นที่ 5,290 บาท สำหรับโมเดล Vibe K5 ครับ ลองเลือกสเปคตามใจชอบได้เลย
Vibe K5 Note
ขยับขึ้นมาหน่อยจะเป็นรุ่นใหม่ เพิ่งวางขายไม่นานกับ ‘Vibe K5 Note’ รุ่นนี้ Lenovo จัดเต็มทั้งหน้าจอขนาดใหญ่ 5.5 นิ้ว (FHD) แสดงผลเต็มตา ดูหนัง เล่นเกม ใช้งานแอพพลิเคชั่นได้ดี บอดี้โลหะ Unibody สวยงาม โดยเฉพาะสีทอง ชิปประมวลผล Octa-Core 1.8 GHz + RAM 3 GB ทำงานรวดเร็วครับ แถมได้อัพเป็น Android 6.0 แล้วอีกด้วย ด้านกล้องจัดให้ 13MP มีสแกนลายนิ้วมือด้านหลัง และแบตเตอรี่ 3,500 mAh ใช้งานเต็มวันสบาย ๆ ไม่ต้องพึ่ง Power bank
Moto G4 Plus
รุ่นใหม่ล่าสุดจาก Moto ภายใต้การดูแลของ Lenovo ถึงดีไซน์จะอวบ ๆ หน่อย แต่มีน้ำหนักเบา พกพาสะดวกเป็นพิเศษ กับจุดขายหลักคือ หน้าจอขนาดใหญ่ 5.5 นิ้ว (FHD), ปุ่มสแกนลายนิ้วมือด้านหน้า ชิปประมวลผล Snapdragon 617 + RAM 3 GB ทำงานลื่นดีไม่มีสะดุด บน Android 6.0.1 อินเตอร์เฟซ Pure Android รูปแบบดั้งเดิม กล้องความละเอียด 16MP มี Laser-AF ถ่ายภาพรวดเร็ว นอกจากนี้ยังรองรับระบบ Turbo Charge ชาร์จแบตรวดเร็ว ทั้งหมดนี้ราคาแค่ 8,xxx เท่านั้นเอง
Moto Z
รุ่นเรือธงจาก Moto เปิดตัวไม่นานมานี้ เตรียมสัมผัสตัวจริงในงาน #mobileexpo ดีไซน์สุดยอดบางเฉียบไม่ถึง 6 มิลลิเมตร บอดี้โลหะทั้งตัว พร้อมสเปคไม่ธรรมดา หน้าจอ AMOLED ขนาดใหญ่ 5.5 นิ้ว (QHD), ชิปประมวลผล Snapdragon 820 + RAM 4 GB แรงเร็วแบบเดียวกับเรือธงรุ่นอื่น ๆ กล้องความละเอียด 13MP มีระบบ OIS ป้องกันภาพสั่น แบตเตอรี่ 2,600 mAh ที่สำคัญคือมีอุปกรณ์เสริมเป็น Module สวมครอบด้านหลังหลากหลาย เช่น ลำโพง JBL, เคสแบตเตอรี่, ฝาหลังลายสวย ๆ ฯลฯ รอติดตามได้ครับ
Moto Z Play
อีกรุ่นใหม่ล่าสุดจาก Moto ที่เปิดตัวไปในงาน IFA 2016 สด ๆ ร้อน ๆ สำหรับ Moto Z Play จะมีสเปคและฟีเจอร์การใช้งานต่างจากตัวมาตรฐานบ้าง โดยตัวหน้าจอจะเป็น Super AMOLED ขนาด 5.5 นิ้ว Full HD, ชิปประมวลผล Snapdragon 625 Octa-core2.0 GHz, RAM 3GB หน่วยความจำในเครื่อง 32 GB เพิ่ม microSD ได้ถึง 256 GB ช่องเสียบแบบ USB Type-C ส่วนกล้องความละเอียดจะเป็น 16MP ถ่ายวิดีโอได้ถึงระดับ 4K และแบตเตอรี่จัดมาให้มากกว่าที่ 3,510 mAh พร้อมรองรับระบบชาร์จเร็ว รวมถึงยังรองรับ Moto Mod อุปกรณ์เสริมแบบสวมครอบด้านหลังแบบเดียวกับ Moto Z ได้ด้วย
OPPO
A37
หลายคนกังวลว่ารุ่นราคาไม่แพงจะสามารถ Selfie ได้แจ่มมั้ย กล้องหน้าดีมั้ย นาทีนี้ ‘OPPO A37’ คือสมาร์ทโฟนกล้องหน้าเทพ ขณะที่ราคาเอื้อมง่ายสบาย ๆ หน้าจอขนาด 5.0 นิ้ว (HD) ขนาดบอดี้พอดีมือ พกพาสะดวก ชิปประมวลผล Snapdragon 410 + RAM 2 GB รันบน Android 5.1 บนอินเตอร์เฟซ Color OS 3.0 ออปชั่นเยอะมาก กล้องหลัก 8MP-กล้องหน้า 5MP มีโหมด Beautify ในตำนาน สว่างคมชัด แบตเตอรี่ 2,630 mAh ใช้งานเต็มวัน ราคาเพียง 6,990 บาทเท่านั้น
F1s
รุ่นใหม่ล่าสุด หรูหรา อลัง แต่ราคาไม่ถึงหมื่นจาก OPPO ดีไซน์คล้าย ‘F1 Plus’ แต่ขนาดเล็กกว่า หน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว (HD) บอดี้บางแค่ 7.3 มิลลิเมตร พกพาสะดวก ทนทานด้วยวัสดุโลหะ ชิปประมวลผล Octa-Core + RAM 3 GB ทำงานรวดเร็วบน Android 5.1 (Color OS 3.0) ฟีเจอร์มากมาย กล้องหลักความละเอียด 13MP ส่วนกล้องหน้าจัดเต็มกว่า 16MP ! เรียกว่า Selfie แบบเห็นร่องสิวเลยทีเดียว ขณะที่ราคาไม่แพงอย่างที่คิดครับ สามารถลองเล่น-ซื้อมาใช้งานได้เลย
F1 Plus
รุ่น (เกือบ) ไฮเอนด์จาก OPPO สเปคสูงกว่า F1s เล็กน้อย แต่โดดเด่นทั้งดีไซน์บางเฉียบ หน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว (FHD) เกือบไร้ขอบ แสดงผลเต็มตาเป็นพิเศษ ชิปประมวลผล Octa-Core + RAM 4 GB ทำงานรวดเร็ว รองรับวิดีโอ FHD เล่นเกมกราฟิกสูงได้ กล้องหลักความละเอียด 13MP ขณะที่กล้องหน้า 16MP จัดเต็มเหมือน F1s รองรับการชาร์จแบบ VOOC เร็วสะใจ ไม่ต้องรอนาน ด้านราคา-โปรโมชั่นน่าจะเห็นอะไรเด็ด ๆ ในงานครับ รอติดตาม !
vivo
Y31L
ตัวเครื่องเล็กพกพาง่าย สเปคกำลังดี รองรับ 4G LTE แถมสองซิม ‘vivo Y31L’ ตอบโจทย์ผู้ใช้ที่ต้องการออปชั่นครบ ราคาไม่แพง หน้าจอขนาด 4.7 นิ้ว (qHD), ชิปประมวลผล Quad-Core + RAM 1 GB ทำงานรวดเร็วบน Android 5.1 ต้องลองสัมผัสครับ จะเห็นว่า vivo ปรับแต่งรอมมาดีทีเดียว กล้องความละเอียด 8MP + กล้องหน้า 5MP เมมโมรีภายใน 16 GB พร้อมเพิ่ม microSD ภายนอก ราคาเพียง 4,xxx บาท เป็นเจ้าของได้ไม่ยาก
V3
รุ่นกลางที่มีหลายคนพูดถึงในแง่ความคุ้มค่า ราคาไม่แพง แถมเพิ่งปรับราคาลงมาเหลือ 7,990 บาท กับ vivo V3 มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 5.0 นิ้ว (HD) บอดี้โลหะ Unibody ค่อนข้างบาง พกพาสะดวกพอตัว ชิปประมวลผล Snapdragon 616 + RAM 3 GB ทำงานรวดเร็วบน Android 5.1 (Funtouch OS) ลื่นปรื๊ด ๆ เล่นเกมกราฟิกระดับกลางได้ดี กล้องความละเอียด 13MP ถ่ายเร็วทันใจ ฟังก์ชั่นให้ใช้เพียบ นอกจากนี้ยังรองรับ 4G LTE / 2 ซิมการ์ด รวมถึงระบบเสียง Hi-Fi ทำให้รุ่นนี้ไม่ธรรมดา !
V3 Max
ผมขอบอกเลยว่า หากกำลังหามือถือสักเครื่อง ขอหน้าจอใหญ่ เสียงเทพ แรงกระจุย กล้องใช้ได้ แต่ราคาไม่เกิน 13,000 บาท ควรซื้อเป็นอย่างยิ่งกับ ‘vivo V3 Max’ ได้ครบทุกคุณสมบัติ ทั้งหน้าจอขนาดใหญ่ 5.5 นิ้ว (FHD), ชิปประมวลผล Snapdragon 652 + RAM 4 GB แรงสะใจมาก เล่นเกมกราฟิกสูงสบาย แม้ไม่รองรับ 4K ก็ตาม ด้านกล้องใส่มาให้ 13MP ถ่ายเร็ว ถ่ายไว ระบบเสียง Hi-Fi มีชิปประมวลผลเสียงแยก ! นอกจากนี้ยังรองรับชาร์จไฟแบบเร็ว (Quick Charge) ชาร์จแป๊บเดียว ใช้งานต่อได้หลายชั่วโมงอีกด้วย
X7
นานทีเดียวที่ไม่เห็น vivo รุ่นใหม่วางจำหน่ายบ้านเรา ล่าสุดเตรียมพบกับ ‘vivo X7’ รุ่นกลางสเปคน่าสนใจราคาหมื่นกลาง ๆ มีจุดขายคือ หน้าจอขนาด 5.2 นิ้ว (FHD) แสดงผลคมชัด ขนาดบอดี้พอดีมือ ดีไซน์สวยบางเฉียบแค่ 7.2 มิลลิเมตร ชิปประมวลผล Snapdragon 652 + RAM 4GB ของแรง เล่นกราฟิกสูง ๆ สบาย แม้ไม่รองรับวิดีโอ 4K ก็ตาม จัดหนักเมมโมรี่ภายใน 64GB (เพิ่ม MicroSD ได้อีก) ระบบเสียง Hi-Fi 32-Bit พร้อมแบตเตอรี่ 3000 mAh สแกนลายนิ้วมือปุ่ม Home น่าสนใจทีเดียว !
Wiko
Lenny 3
รุ่นนี้ก็ยังคงราคาประหยัดครับ 2,790 บาท ได้หน้าจอขนาดใหญ่ 5.0 นิ้ว (HD) บอดี้สีสันหลากหลายให้เลือก (ฝาหลัง) แรงเร็วด้วยชิปประมวลผล Quad-Core 1.3 GHz + RAM 1 GB, รันบน Android 6.0 เวอร์ชั่นล่าสุด อัพกล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซล / กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล เอาใจขา Selfie พร้อมรองรับ 3G ทุกเครือข่าย คุ้มกำลังดีเลย หรือจะดูเป็นรุ่นถัดไปก็ได้นะครับ
Robby 2
จ่ายเพียง 3,xxx บาท ได้มือถือหน้าจอขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 5.5 นิ้ว (HD) ออกใหม่ล่าสุดเลยกับ ‘Robby’ สเปคภาพรวมเหมือน Lenny 3 ครับ ชิปประมวลผล Quad-Core 1.3 GHz + RAM 2 GB, Android 6.0 กล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซล แบตเตอรี่ 2,500 mAh แต่ไม่รองรับ 4G LTE มีบอดี้ให้เลือก 5 สีสันด้วยกัน รุ่นนี้ลองเล่นที่ Shop หรือในงานก่อนตัดสินใจซื้อ ดูจากสเปค-ราคาแล้วคิดว่าตัดสินใจไม่ยาก
Ufeel Lite
ขยับขึ้นมาหลัก 4,xxx บาท จะเป็นรุ่นใหม่ของ Wiko หน้าตาพรีเมียม วัสดุโลหะสวยงามกับ ‘Ufeel Lite’ หน้าจอขนาด 5.0 นิ้ว (HD) ขนาดบอดี้พอดี ๆ ชิปประมวลผล Quad-Core 1.3GHz + RAM 2 GB ทำงานรวดเร็วบน Android 6.0 ลงแอพพลิเคชั่นเสริมต่าง ๆ มากมาย พร้อมรองรับการสแกนลายนิ้วมือ กล้องหลัก 8MP + กล้องหน้า 5MP มีไฟ LED ช่วยถ่าย Selfie ที่แสงน้อยอีกด้วย เมมโมรีภายใน 16 GB เพิ่ม microSD ส่วนจะถูกใจมั้ยต้องลองเล่นในงานครับ
Ufeel
เป็นอีกรุ่นของ Wiko ที่มีความสามารถหลากหลาย รองรับสแกนลายนิ้วมือสูงสุด 5 นิ้ว สำหรับเปิดแอพพลิเคชั่นที่ตั้งค่าไว้ ใช้งาน Gesture สั่งการได้, ชิปประมวลผล Quad-Core 1.3 GHz + RAM 3 GB ทำงานรวดเร็วบน Android 6.0 เร็วกว่าเดิม เล่นเกมกราฟิกระดับกลางได้ดี หน้าจอขนาด 5.0 นิ้ว กล้องความละเอียด 13MP และกล้องหน้า 5MP มีไฟ LED ช่วยถ่าย Selfie ราคาประมาณ 5,xxx บาท ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับสมาร์ทโฟน Android ไม่เกิน 6,000 บาท
Sony
Xperia XA
จับจองเป็นเจ้าของได้ทันที ! Xperia XA สมาร์ทโฟน Android จาก Sony แม้จะไม่ต่างจากรุ่นก่อนหน้ามากนัก แต่บอดี้ดูแพง หรูหราเป็นพิเศษ หน้าจอขนาด 5.0 นิ้ว (HD) แทบจะชิดขอบจอ พื้นที่แสดงผลมากเป็นพิเศษ เหมาะกับใช้ดูหนัง เล่นเกม ดูรูปภาพ ขณะที่ขนาดบอดี้เล็กพกพาง่าย บางแค่ 7.9 มิลลิเมตร แรงเร็วด้วยชิปประมวลผล Mediatek Helio P10 + RAM 2 GB ติดกล้องหลัก 13 ล้านพิกเซล พร้อมกล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล แบตเตอรี่ 2,300 mAh และรองรับ 4G LTE ครบเครื่อง ด้วยราคาไม่ถึง 10,000 บาท จึงเป็นอีกรุ่นที่น่าจับตามอง
Xperia XA Ultra
ส่วนตัวชอบรุ่นนี้อีก 1 รุ่นจาก Sony ซึ่งเป็นภาคต่อของ Xperia C5 Ultra สำหรับรุ่นนี้ยังคงหน้าจอขนาดใหญ่ 6.0 นิ้ว (FHD) ขอบแทบจะไม่มี ทำให้การแสดงผลทำได้เต็มพื้นที่ เหมาะกับเล่นเกม ดูหนังเป็นพิเศษ ด้านสเปคระดับกลาง ๆ ครับ ชิปประมวลผล Octa-Core 2 GHz + RAM 3 GB รันบน Android 6.0.1 ฟีเจอร์เสริมต่าง ๆ เช่นเดียวกับ Sony รุ่นอื่น ๆ บอดี้โลหะสวยงามทนทาน อย่างไรก็ดี แบตเตอรี่ผมว่าน้อยไปนิดเพียง 2,700 mAh แต่ยังมีโหมด Stamina ไว้ยืดการใช้งานแบตเตอรี่ไปได้อีกหน่อย
Xperia X
รุ่น (เกือบ) เรือธงจาก Sony แม้จะไม่ใช่รุ่นเรือธงสเปคจัดเต็ม แต่ ‘Xperia X’ ออกแบบดีไซน์สวยงาม เรียบง่าย ใช้วัสดุโลหะบางเฉียบเพียง 7.7 มิลลิเมตร โดดเด่นด้วยระบบถ่ายภาพอย่างรวดเร็วผ่านกล้อง 23 ล้านพิกเซล เช่นเดียวกับ Xperia Z5 พร้อมกล้องหน้า 13 ล้านพิกเซล เอาใจขา Selfie โดยเฉพาะ ด้านประสิทธิภาพอยู่ระดับกลาง ๆ ชิปประมวลผล Snapdragon 650 + RAM 3 GB แบตเตอรี่ 2,620 mAh อาจจะน้อย แต่ Sony เคลมว่าใช้งาน 2 วันสบาย ๆ รันบน Android 6.0.1 ขอบอกว่าลื่นมาก ๆ ต้องลองมาสัมผัสในงานครับ
Xperia X Performance
งานนี้เป็นพระเอกเลยทีเดียวกับ ‘Xperia X Performance’ ถึงหน้าตาจะไม่ต่างจาก Xperia X แต่ด้านในอัดสเปคมาโหดพอตัว ทั้งชิปประมวลผล Snapdragon 820 + RAM 3 GB รองรับระบบเสียง Hi-Fi ใช้งานร่วมกับ Walkman กล้องความละเอียด 23MP พร้อม Hybrid-AF โฟกัสฉับไว รองรับการใช้งาน 2 ซิมแบบ 4G + 3G พร้อมกันได้ เพิ่ม microSD สูงสุด 256 GB และ .. กันน้ำภายใต้มาตรฐาน IP68 อีกด้วย ด้านสนนราคาที่ 24,xxx บาท มีลุ้นว่า Sony จะมีโปรโมชั่นพิเศษด้วย รอติดตาม
ZTE
Blade V7 Lite
สมาร์ทโฟน Android รุ่นล่างราคาเบา ๆ จาก ZTE หน้าตาเรียบง่าย แต่สวยงาม ทนทานด้วยวัสดุบอดี้โลหะ หน้าจอขนาด 5.0 นิ้ว (HD) แสดงผลระดับพอใช้ ชิปประมวลผล Quad-Core + RAM 2 GB ตอบโจทย์การใช้งานทั่วไปได้ดี เล่นเกมนิดหน่อย ดูหนัง HD ฯลฯ กล้องความละเอียด 13MP และกล้องหน้าสำหรับ Selfie 8MP รองรับ 4G LTE ใช้งาน 2 ซิมการ์ด กับราคาเป็นเจ้าของไม่ยากเพียง 4,xxx บาท แถมมีโปรโมชั่นร่วมกับค่ายมือถืออีกด้วย
Blade V7 Max
อัพเกรดจากรุ่นด้านบน ขยายหน้าจอใหญ่ขึ้น วัสดุดีไซน์พรีเมียมสุด ๆ กับ 'Blade V7 Max' หน้าจอขนาดใหญ่ 5.5 นิ้ว (FHD) แสดงผลคมชัด บอดี้อะลูมิเนียม Unibody ทนทาน หรูหรา แรงเร็วด้วยชิปประมวลผล Octa-Core 1.8 GHz + RAM 3 GB ทำงานลื่นไหล ลงแอพพลิเคชั่น เกม ดูหนัง FHD ไม่มีกระตุก กล้องจัดเต็ม 16MP พร้อมกล้องหน้า 8MP นอกจากนี้ยังรองรับเชื่อมต่อ USB Type-C อีกต่างหาก ส่วนราคาจะเปิดเท่าไหร่ต้องรอติดตามครับ
Axon 7 Mini
โมเดลใหม่ล่าสุดจาก ZTE สำหรับผู้ชื่นชอบดีไซน์หรู วัสดุเทพ ระบบเสียงอลังการ แต่ไม่อยากจ่ายแพง Axon 7 Mini คือ Axon 7 รุ่นเรือธงย่อส่วนครับ มาพร้อมกับหน้าจอ Super-AMOLED ขนาด 5.2 นิ้ว (FHD) แสดงผลดีเยี่ยม ชิปประมวลผล Snapdragon 617 + RAM 3GB ทำงานรวดเร็วบน Android 6.0.1 ระบบเสียง Hi-Fi 24-Bit พร้อม Dolby Atmos กล้องความละเอียด 16MP รองรับการชาร์จแบตเตอรี่ Fast-Charge คาดว่าราคาจะอยู่ในช่วงหมื่นต้น ๆ
Axon 7
คาดว่าจะนำเสนอครั้งแรกในงาน #Mobileexpo ดีไซน์สุดอลังการ สเปคระดับเรือธง หน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว 2K (QHD) AMOLEDแสดงผลคมชัดสุด ๆ บอดี้อะลูมิเนียม Unibody สีทองอร่ามสวยงาม ชิปประมวลผล Snapdragon 820 + RAM 4 GB แรงสะใจเช่นเดียวกับ Flagship ของแบรนด์อื่น ๆ ด้านกล้องจัดเต็ม 20MP พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS+EIS, เมมโมรี่ภายใน 64 GB (เพิ่ม microSD ได้อีก) พร้อมระบบเสียง Hi-Fi Dolby Atmos ในตัว แถมลำโพงคู่สเตอริโอ ! คนชอบดูหนัง ฟังเพลงห้ามพลาด เหลือแค่มาลุ้นราคาขายแล้ว
TP-LINK
Neffos Y5
ชื่อเสียงแบรนด์น่าจะคุ้นเคยกันดีกับ TP-LINK ปัจจุบันหันมาเล่นตลาดมือถือ Android ราคาประหยัด รุ่นแรกเป็นน้องเล็กราคาประหยัด Neffos Y5 หน้าจอขนาดใหญ่ 5.0 นิ้ว (HD) รองรับ 4G LTE + ใช้งาน 2 ซิมการ์ด ชิปประมวลผล Quad-Core + RAM 2 GB รันบน Android 6.0 ลงแอพพลิเคชั่นเสริมต่าง ๆ มากมาย ติดกล้อง 8MP และหน้าตาเรียบง่าย มี 2 สีสันคือ ดำ, ขาว ให้เลือกใช้ครับ
Neffos Y5L
เป็นรุ่นราคาประหยัด(กว่า) Neffos Y5 จากขนาดหน้าจอ 4.5 นิ้ว ขนาดบอดี้กะทัดรัดกว่าเดิม พกพาสะดวก ใช้งานเป็นเครื่องสำรองก็ดี ชิปประมวลผล Quad-Core + RAM 1 GB รันบน Android 6.0 ทำงานรวดเร็วพอใช้ แม้สเปคจะไม่สูงนัก กล้องหลักความละเอียด 5MP + กล้องหน้า 2MP อย่างไรก็ดี Neffos Y5L รองรับเฉพาะ 3G ครับ แลกกับราคาที่ถูกกว่าพอสมควร
C5 Max
อัพสเปคสูงขึ้นมาหน่อย จะเป็นรุ่นนี้ครับ Neffos C5 Max หน้าจอขนาดใหญ่ 5.5 นิ้ว (FHD) แสดงผลคมชัด มุมมอง 178 องศา ดีไซน์สวย เร็วแรงด้วยชิปประมวลผล Octa-Core + RAM 2 GB ใช้งานแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ ได้ดี กล้องความละเอียด 13MP รองรับ 4G LTE / 2 ซิมการ์ดครบเครื่อง รันบน Android 6.0 อินเตอร์เฟซเรียบง่าย ใช้งานไม่ยาก ราคาสามารถเป็นเจ้าของได้ที่ 5,xxx บาท ถือว่าสมราคาครับ
Acer
Acer Liquid Zest 4G
โมเดลรองรับ 4G รุ่นใหม่จาก Acer ราคาเพียง 5,xxx บาท กับคุณสมบัติสเปคน่าสนใจ หน้าจอขนาด 5.0 นิ้ว (HD) ขนาดบอดี้พอดี ๆ ชิปประมวลผล Quad-Core 1.3 GHz + RAM 2 GB ทำงานรวดเร็วบน Android 6.0 เวอร์ชั่นเกือบล่าสุด ลงแอพพลิเคชั่นเสริม เกม ดูหนัง ฟังเพลงครบเครื่อง ติดกล้อง 8MP / กล้องหน้า 5MP แบตเตอรี่ 2,000 mAh หากใช้งานเยอะต้องพก Power Bank เพิ่มด้วย ถ้าสนใจมือถือ 4G LTE ราคาไม่แพงจาก Acer มีรุ่นนี้โอเคเลย
Acer Liquid Zest
คล้ายกับรุ่นด้านบนครับ Liquid Zest มี 2 โมเดลย่อยให้เลือก สำหรับรุ่น 3G HSPA+ มีการปรับสเปคลงมาตามราคา 3,xxx บาท กับชิปประมวลผล Quad-Core + RAM 1 GB รันบน Android 6.0 ส่วนอื่น ๆ ยังคงเดิมทั้ง กล้องหลัก 8MP, กล้องหน้า 5MP, หน้าจอ IPS ขนาด 5.0 นิ้ว (HD) ฯลฯ วางจำหน่ายพร้อมกันครับ เลือกซื้อได้ตามความต้องการ
LG
LG Stylus 2
ภาคต่อของรุ่นจอใหญ่ พร้อมปากกา Stylus สำหรับเขียนจอในตัวกับ LG Stylus 2 มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 5.7 นิ้ว (HD) สามารถเขียนหน้าจอด้วย Stylus พิเศษ พร้อมแอพพลิเคชั่นสำหรับจดบันทึก-วาดภาพโดยเฉพาะ ชิปประมวลผล Quad-Core + RAM 1.5 GB รันบน Android 6.0 ทำงานรวดเร็วดีครับ รองรับ 2 ซิมการ์ด / 4G LTE กล้องความละเอียด 13MP + กล้องหน้า 8MP ไว้ Selfie ความละเอียดสูง โดยราคาสามารถหาซื้อได้ประมาณ 8,xxx บาท
LG G5 SE
ถึงจะเปิดตัวช่วงแรกมาราคาสูง แต่ล่าสุด 'LG G5 SE' สามารถเป็นเจ้าของด้วยราคาย่อมเยา เทียบกับคุณสมบัติสเปคไม่ธรรมดา โดยเฉพาะกล้องหลัก 16MP แบบเลนส์คู่ สามารถ่ายมุมกว้าง 135 องศา ! บอดี้โลหะสวยงาม พร้อมอุปกรณ์เสริม (Module) นำลำโพงเสริม / Grip กล้อง ฯลฯ มาเสียบเพิ่มได้ ชิปประมวลผล Snapdragon 652 + RAM 3 GB ค่อนข้างแรงพอตัว รองรับ 4G LTE / 2 ซิมการ์ด รันบน Android 6.0 แน่นอนครับ มีโปรโมชั่นเด็ด ณ งาน #Mobileexpo !
HTC
Desire 630 DualSIM
ใครคิดถึง HTC งานนี้มีวางจำหน่ายผ่านดีลเลอร์ครับ เริ่มด้วย 'Desire 630 DualSIM' รุ่นเล็ก สเปคโอเค ออกแบบฝาหลังลายจุด โดดเด่นกว่าใคร ดีไซน์เรียบง่ายอย่างที่คุ้นเคย หน้าจอขนาด 5.0 นิ้ว (HD) ชิปประมวลผล Quad-Core 1.6 GHz + RAM 2 GB ทำงานรวดเร็ว รองรับ 4G LTE /2 ซิมการ์ด รันบน Android 6.0 ที่น่าสนใจกว่านั้นคือ ระบบเสียง Hi-Fi 24-Bit + Dolby Audio ในตัว หายากครับกับราคามือถือประมาณ 5-6 พันบาท
Desire 728
อัพจอใหญ่ขึ้นมาอีกหน่อยจะเป็นรุ่นนี้ 'Desire 728' ดีไซน์เรียบ ๆ หน้าจอขนาดใหญ่ 5.5 นิ้ว (HD) ลำโพงคู่สเตอริโอ กล้อง 13MP รองรับ 2 ซิมการ์ด ชิปประมวลผล Octa-Core + RAM 2 GB รันบน Android 5.1.1 ออปชั่นครบ น้ำหนักเบาพกพาง่าย กับราคาประมาณ 7,xxx บาท ซึ่งคาดว่าจะมีการลดราคาภายในงานครับ
Desire 830
รุ่นนี้ไม่ธรรมดาครับ เทียบกับคุณสมบัติสเปคจัดว่าคุ้มราคา 8,xxx บาทเลย 'Desire 830' มาพร้อมกับหน้าจอ 5.5 นิ้ว (FHD) แสดงผลค่อนข้างดี ชิปประมวลผล Octa-Core + RAM 3 GB จุใจเมมโมรี่ 32 GB (เพิ่ม microSD ได้), รันบน Android 6.0 ระบบเสียง Hi-Fi ลำโพงสเตอริโอคู่ด้านหน้า ด้านกล้องจัดมา 13MP + OIS กันสั่น แถมกล้องหน้า UltraPixel ถ่ายกลางคืนดีเยี่ยมอีก เป็นอีกรุ่นที่คุ้มมาก !
HTC 10
เรือธงของ HTC แม้จะวางจำหน่ายมาหลายเดือน แต่สเปคอะไรยังคงทันสมัยครับ บอดี้โลหะ Unibody งานประกอบยอดเยี่ยม หน้าจอ SLCD3 ขนาด 5.2 นิ้ว (QHD) แสดงผลละเอียด สว่างเป็นพิเศษ ระบบเสียง Hi-Fi 24-Bit + ลำโพงสเตอริโอคู่ เหมาะกับคนชอบฟังเพลง ชิปประมวลผลเร็วแรง Snapdragon 820 + RAM 4 GB เช่นเดียวกับ Flagship จากแบรนด์อื่น ๆ ด้านกล้องจัดเต็ม 12MP (UltraPixel) ตัวใหม่ ถ่ายเร็ว ถ่ายไว สว่างคมชัด รองรับวิดีโอ 4K, เชื่อมต่อ USB Type-C ฯลฯ ทั้งนี้ราคาอาจไม่ถูกสักเท่าไหร่ครับ ประมาณ 24,xxx บาท
OTHERS
AIS Lava VoLTE 755
ส่วนตัวคิดว่าเพิ่มเงินมาใช้รุ่นนี้ดีกว่า 'Lava VoLTE 755' สเปคดีขึ้นพอสมควร หน้าจอขนาด 4.5 นิ้ว ขนาดเครื่องพอดีมือ ชิปประมวลผล Quad-Core 1 GHz + RAM 1 GB ทำงานรวดเร็วขึ้น เมมโมรี่ภายใน 8 GB + microSD ลงแอพพลิเคชั่นเสริมผ่าน Play Store กล้องความละเอียด 5MP + กล้องหน้า 2MP ใช้งานทั่วไปไม่มีปัญหา รองรับ 4G LTE / 2 ซิมการ์ด และแบตเตอรี่ 2,000 mAh มากพอสำหรับ 1 วัน ขณะที่ราคาเพียง 2,xxx บาทเท่านั้นเอง
AIS Lava VoLTE 870
Lava VoLTE 870 คล้ายกับรุ่น Lava 755 ครับ เพิ่มขนาดหน้าจอเป็น 5.0 นิ้ว (HD) อัพกล้องเป็น 8MP บันทึกวิดีโอ HD ถ่ายภาพคมชัดยิ่งขึ้น ชิปประมวลผล Quad-Core + RAM 1 GB รันบน Android 5.1 ดีไซน์สวยงามขึ้น พาเนลกระจกแบบ 2.5D พร้อมแบตเตอรี่ 2,700 mAh ใช้งาน 1 วันสบาย ๆ รองรับ 4G LTE / 2 ซิมการ์ด ฯลฯ โดยราคาเพิ่มจากรุ่น Lava 755 เพียง 600 บาท ลองเล่นของจริงก่อนตัดสินใจซื้อได้ครับ
TRUE Lenovo 4G Vibe C
ใครบอกมือถือ 4G LTE จะต้องราคาแพงต้องคิดใหม่ เพราะ True Lenovo 4G Vibe C สามารถเป็นเจ้าของได้ในราคาเพียง 2,990 บาท กับคุณสมบัติอัพเกรดจากรุ่นเดิม (A2010) ทั้งหน้าจอขนาดใหญ่ 5.0 นิ้ว, แบตเตอรี่ 2300 mAh ดีไซน์สวยขึ้น แรงเร็วด้วยชิปประมวลผล Quad-Core + RAM 1 GB รองรับ 4G LTE / ใช้งาน 2 ซิมการ์ด นอกจากนี้หากคุณซื้อพร้อมแพ็คเกจรายเดือน มีสิทธิรับเครื่องฟรีกลับบ้านทันที !
dtac Phone M1
อีกหนึ่งมือถือรองรับ 4G LTE ราคาเบา ๆ สบายกระเป๋าจาก dtac เป็นเจ้าของง่าย ๆ เพียง 3,xxx บาท สเปคน่าสนใจครับ หน้าจอขนาด 5.0 นิ้ว (HD) แสดงผลคมชัดกำลังดี ชิปประมวลผล Quad-Core + RAM 1 GB แถมรันบน Android 6.0 เวอร์ชั่นใหม่ ทำงานรวดเร็ว ติดกล้องความละเอียด 8MP + กล้องหน้า 8MP !! คุณต้องประหลาดใจว่าทำไม dtac Phone M1 ถึงน่าใช้ขนาดนี้ แน่นอนว่ามีแพ็คเกจ 4G ให้คุณเลือกสมัครเพิ่มเติมด้วย
Meizu M3 Note (dtac Edition)
แม้ว่ารอบก่อนจะวางจำหน่ายไม่ทัน แต่คราวนี้คุณสามารถจับจอง Meizu M3 Note (dtac Edition) ได้แล้ว สเปคแรง บอดี้โลหะสวยงาม หน้าจอ IPS ขนาดใหญ่ 5.5 นิ้ว (FHD) แสดงผลคมชัด เหมาะกับดูหนังเล่นเกม ใช้งานแอพพลิเคชั่นทั่วไป ชิปประมวลผล Octa-Core 1.8 GHz + RAM 3 GB รันบน Android 5.1 (Flyme OS) เสถียร ใช้งานง่าย พร้อมกล้องหลัก 13MP และแบตเตอรี่ 4100 mAh อึดสบาย ๆ ใช้งานเต็มวัน เชื่อมั้ยว่าทั้งหมดนี้แค่ 5,xxx บาทเท่านั้นเอง !
Nextbit Robin
อาจไม่ใช่สมาร์ทโฟนจากแบรนด์ชั้นนำ แต่น้องใหม่อย่าง ‘Nextbit’ มีจุดขายที่ไม่มีใครเหมือน โดยเฉพาะระบบ Cloud ที่สามารถ Sync ทุกอย่างเก็บไว้อัตโนมัติเมื่อเชื่อมต่อ WiFi ทำให้มีพื้นที่จัดเก็บบนสมาร์ทโฟนมากขึ้น สามารถตั้งค่าล็อครหัส / รองรับระบบสแกนลายนิ้วมือ / ปลอดภัยด้วยระบบการเข้ารหัส ด้านสเปคมาพร้อมกับหน้าจอ 5.2 นิ้ว (FHD), ชิปประมวลผล Snapdragon 808 + RAM 3 GB, Android 6.0, ลำโพงคู่ด้านหน้า รองรับ 4G LTE แถมเชื่อมต่อ USB Type-C นอกจากนี้ยังนำ Custom Rom มาติดตั้งแบบไม่หมดประกันอีกด้วย
iPhone SE
หากคุณรอโปรโมชั่นดี ๆ อาจจะเป็นผ่อน 0% หรือ Cash Back และแพ็คเกจดี ๆ จาก 3 ค่ายมือถือใหญ่ เป็นโอกาสดีที่จะได้ครอบครอง ‘iPhone SE’ ในงาน #mobileexpo มีให้คุณเลือกทุกสี-ความจุตามต้องการครับ เรื่องหน้าตาแม้จะเหมือนกับ iPhone 5s แต่สเปคข้างในยกเครื่องใหม่หมด แรงเร็วด้วยชิปประมวลผล Apple A9 + RAM 2 GB, กล้อง 12 ล้านพิกเซล แต่ปุ่มโฮมสแกนลายนิ้วมือ (TouchID) กับกล้องหน้า ยังคงใช้ตัวเดิมเท่านั้นเอง มีให้เลือก 4 สีสัน และ 2 ความจุ (16, 64GB) ราคาคงทราบกันดีแล้ว เหลือแค่โปรโมชั่นจากค่ายต่าง ๆ รอติดตามได้ครับ
ทั้งหมดนี้พบได้ในงาน Thailand Mobile Expo 2016 Showcase งานแสดงมือถืองานใหญ่ที่สุดของประเทศ จัดขึ้น ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ระหว่างวันที่ 29 กันยายน – 2 ตุลาคม 2559